เจ้าหน้าที่ทางการยูเครนเผยถึงเหตุการณ์กองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีในสถานพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองดนีโปรของยูเครน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 30 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเพียงเด็กอายุ 3-6 ปีเท่านั้น ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความชั่วร้ายของรัสเซียอย่างเด่นชัด
ผู้นำยูเครนระบุว่า “ชาวรัสเซียได้ลงมือก่อการร้ายอีกครั้ง เพื่อยืนยันสถานะของการเป็นนักสู้ที่ต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวพันกับมนุษยธรรมและความซื่อสัตย์”
ด้าน เซอร์ฮีย์ ไลสัก ผู้แทนยูเครนที่รับผิดชอบและดูแลความสงบเรียบร้อยในภูมิภาคดังกล่าว ระบุว่า เมื่อช่วงคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (25 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น เป็นค่ำคืนที่ยากลำบากของชาวยูเครนในเมืองดนีโปร มีเสียงระเบิดดังเกิดขึ้น ดนีโปรได้รับความเสียหายอย่างหนักในค่ำคืนนั้น
ทางการยูเครนชี้ว่า ในค่ำคืนดังกล่าวกองกำลังยูเครนยิงสกัดกั้นขีปนาวุธได้มากถึง 17 ลูก และตรวจพบว่ามีโดรนมากกว่า 31 ลำบินข้ามมาจากฟากฝั่งของรัสเซีย
ขณะที่ในเขตพื้นที่ของรัสเซียเองก็ได้รับความเสียหายบางส่วนจากการโต้กลับของกองกำลังยูเครนเช่นเดียวกัน แรงระเบิดจากโดรนของยูเครนสร้างความเสียหายให้กับอาคารที่พักอาศัยในเมืองครัสโนดาร์ของรัสเซียไม่น้อย แต่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหลายแห่งไม่ได้รับความเสียหาย อีกทั้งไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
การสู้รบระหว่างกองทัพรัสเซียและกองกำลังยูเครนในหลายพื้นที่แถบภูมิภาคดอนบาส หรือทางตะวันออกของยูเครน โดยเฉพาะที่เมืองบัคมุต ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แม้สงครามรัสเซีย-ยูเครนในครั้งนี้จะสู้รบกันมานานกว่า 1 ปี 3 เดือนแล้วก็ตาม
ขณะที่แผนผลักดันเวทีการเจรจาสันติภาพเองก็ยังไม่คืบหน้ามากนัก โดยฟากฝั่งของยูเครนประกาศชัด ข้อตกลงสันติภาพใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จะต้องไม่อยู่บนเงื่อนไขของการยอมเสียสละดินแดนใดๆ ของยูเครนให้แก่รัสเซียเลย
ภาพ: Vitalii Matokha / AFP
อ้างอิง: