วานนี้ (7 มีนาคม) เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีเผยว่า เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย จะเข้าประชุมหารือกับ ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ที่จังหวัดอัลทันยาทางตอนใต้ของตุรกี ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ (10 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการประชุมหารือระหว่างผู้แทนระดับสูงของทั้งสองประเทศ นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ตุรกีเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่มีเขตแดนทางทะเลในทะเลดำติดกับรัสเซียและยูเครน ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวกลางในการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลตุรกีถือเป็นหนึ่งในรัฐบาลที่มีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งรัสเซียและยูเครน เป็นรัฐบาลที่มองว่าการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็เคยแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี เพื่อเสนอให้เป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างผู้แทนระดับสูงของทั้งสองรัฐบาล ขณะที่ มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ยืนยันถึงการประชุมที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีเผยว่า เราหวังว่าการประชุมหารือในครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนและเป็นก้าวที่สำคัญที่ปูทางไปสู่สันติภาพและความมั่นคง โดยการประกาศจัดการประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงเพื่ออพยพผู้คนออกจากเมืองมาริอูโปลล้มเหลว ผู้คนจำนวนมากติดอยู่ภายในสมรภูมิ ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม บางรายเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้น (6 มีนาคม) ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุ มีผู้ลี้ภัยเดินทางออกจากยูเครนแล้วกว่า 1.7 ล้านราย นับตั้งแต่วันแรกของการรุนราน ส่วนใหญ่ข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างโปแลนด์ คาดตัวเลขผู้ลี้ภัยมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
ภาพ: Russian Foreign Ministry / TASS via Getty Images. Dursun Aydemir / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
