วานนี้ (24 พฤษภาคม) เซอร์กีย์ คิสลิตสยา (Sergiy Kyslytsya) เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหประชาชาติ กล่าวชื่นชมความกล้าหาญของ บอริส บอนดาเรฟ นักการทูตรัสเซียที่ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อประท้วงรัฐบาลรัสเซียที่ตัดสินใจเปิดฉากทำสงครามรุกรานประเทศเพื่อนบ้านอย่างรัสเซีย
คิสลิตสยาเผยว่า “ในแง่หนึ่ง ผมสามารถกล่าวได้ว่านี่คือการกระทำที่มีความกล้าหาญเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกผิดหวัง
เรารู้สึกผิดหวังมากที่ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ในหมู่นักการทูตรัสเซียที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ เท่าที่เราทราบมีเพียงรายเดียวที่มีมาตรฐานทางด้านศีลธรรมและมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี กล้ายืนหยัดต่อสิ่งที่ชั่วร้าย ไม่ถูกต้อง”
อีกทั้งคิสลิตสยายังเผยอีกว่า เขาต้องพบปะกับเจ้าหน้าที่นักการทูตของรัสเซียทุกสัปดาห์ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งในสภาความมั่นคง ที่พวกเขาพยายามเอาแต่พูดเรื่องโกหก ซึ่งสิ่งนี้จะไม่จบลงจนกว่าผู้ที่ก่อสงครามทั้งหมด รวมถึงบรรดานักการทูตจะขึ้นศาลเพื่อฟังการพิจารณาโทษต่อความผิดที่พวกเขาได้กระทำไว้
“ในแต่ละการประชุมเต็มไปด้วยคำโกหกต่างๆ นานา เพื่อเป็นหลักประกันว่าพวกเขาจะยังมีที่ยืนในประชาคมโลก ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพูดในสภาความมั่นคงจะได้รับการใช้เป็นหลักฐานในศาลที่กำลังจะได้รับการก่อตั้งขึ้น เรื่องนี้จะไม่จบจนกว่าพวกเขาทั้งหมด รวมถึงนักการทูตรัสเซียจะได้ชดใช้ความผิด”
นอกจากนี้คิสลิตสยายังชี้ให้เห็นถึงความคล้ายคลึงของสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักการทูตรัสเซียในทุกวันนี้กับชะตากรรมของ โยอาคิม ฟอน ริบเบนทรอป รัฐมนตรีต่างประเทศของนาซีเยอรมนีในช่วงปี 1938-1945 ที่ท้ายที่สุดเขามีความผิดและต้องโทษประหารชีวิต หลังจากขึ้นศาลอาชญากรรมสงครามนูเรมเบิร์กในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยคิสลิตสยาหวังว่าชาวยูเครนจะได้รับความเป็นธรรมกลับคืนมาในเร็ววัน
ขณะที่ทางการรัสเซียชี้ บอนดาเรฟไม่ใช่คนฝ่ายเราแล้ว สิ่งที่เขาทำคือการต่อต้านการกระทำของรัสเซียที่ได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนชาวรัสเซียเกือบทั้งประเทศ
ภาพ: Timothy A. Clary / AFP
อ้างอิง: