‘Run On Heinz’ วิ่งไปกินซอสมะเขือเทศไป แทนเจลพลังงานได้จริงไหม?

สำหรับสายวิ่งทั้งหลายจะรู้และเข้าใจดีถึงประโยชน์และคุณค่าของ ‘เอเนอร์จี้เจล’ หรือเจลให้พลังงาน ซึ่งเป็นเหมือนตัวช่วยเติมพละกำลังที่ขาดหาย เพื่อจะพานักวิ่งผู้อ่อนแรงทั้งหลายเข้าสู่เส้นชัย ไม่ว่าจะเป็นในการแข่งขันหรือจุดหมายในการออกวิ่งแต่ละวัน

แต่อาหารเสริมที่ให้พลังงานได้นั้นไม่ได้มีเพียงแค่เจลพลังงานเพียงอย่างเดียว มีอีกหลายอย่างที่สามารถให้พลังงานและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการวิ่งได้เหมือนกัน

หนึ่งในนั้นคือซอสมะเขือเทศที่เรารู้จักกันดีอย่าง ‘Heinz’ ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าขอเป็นตัวเลือกสำหรับเหล่านักวิ่ง

ซอสมะเขือเทศไม่ได้เกิดมาเพื่อจิ้มเฟรนช์ฟรายส์เท่านั้น เราจะพาคุณไปสู่เส้นชัยและความฝันได้ด้วย

ว่าแต่มันใช้แทนกันได้จริงๆ หรือ?

เรื่องของการกินซอสมะเขือเทศเพื่อเป็นอาหารให้พลังงานสำหรับนักวิ่งนั้นฟังดูเหมือนเป็นเรื่องขำขันที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง แต่ในความเป็นจริงแล้วในวงการนักวิ่งเป็นที่รู้กันว่าซอสมะเขือเทศถือเป็นหนึ่งในอาหารให้พลังงานที่ดีทีเดียว

สาเหตุนั้นเป็นเพราะในซอสมะเขือเทศมี 2 สิ่งที่สำคัญที่นักวิ่งต้องการ อย่างแรกคือคาร์โบไฮเดรต อย่างที่สองคือเกลือ

นั่นหมายความว่าเราสามารถที่จะกินซอสมะเขือเทศในระหว่างการวิ่ง เพื่อชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปได้เหมือนกัน

ที่ประเทศญี่ปุ่นแบรนด์ซอสมะเขือเทศ Kagome เองก็เคยสร้างสีสันในระหว่างการแข่งขันวิ่งรายการ ‘โตเกียว มาราธอน’ ด้วยการประดิษฐ์เครื่องมือที่สามารถป้อนซอสมะเขือเทศใส่ปากของนักวิ่งได้ แม้ว่าเจ้า ‘Wearable Tomato Device’ จะดูไม่สะดวกในการพกพาเท่าไร เพราะเป็นหุ่นยนต์ที่ต้องแบกขึ้นหลังไปด้วย!

ภาพ: eater.com

ขณะที่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ล่าสุดทางด้าน Heinz แบรนด์ซอสมะเขือเทศยักษ์ใหญ่ของโลกได้ออกแคมเปญ ‘Run On Heinz’ เพื่อชักชวนให้นักวิ่งเปลี่ยนมาใช้ซอสมะเขือเทศซองเล็ก เพื่อเติมพลังงานกลับคืนสู่ร่างกายในระหว่างการวิ่ง

Heinz ฉายภาพตัวอย่างให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น ด้วยภาพของนักวิ่งสาวที่เหน็บซองซอสมะเขือเทศไว้กับผ้าคาดผม ก่อนที่เธอจะออกวิ่งไปสักพักแล้วหยุด เพื่อฉีกซองซอสมะเขือเทศ บีบใส่ปาก แล้วจึงออกวิ่งต่อด้วยความสดชื่น จากนั้นเราได้เห็นภาพของซองซอสมะเขือเทศที่ถูกพกติดตัวไปด้วยวิธีการต่างๆ เช่น พกติดไปกับซองใส่โทรศัพท์มือถือในระหว่างการวิ่งด้วย

เรียกว่ามันชวนให้เชื่อว่าซอสมะเขือเทศดีต่อนักวิ่งจริงๆ (แถมยังประหยัดกว่าเจลพลังงานเยอะด้วย!)

แต่คำถามสำคัญคือ มันใช้แทนกันได้จริงๆ ใช่ไหมในการวิ่งจริงๆ?

เรื่องนี้มีคำตอบจากนักโภชนาการอย่าง แคเธอรีน แพทตัน จาก Cleveland Clinic ที่ให้ความรู้ว่า ปกติแล้วบรรดานักวิ่งทางไกล รวมถึงนักจักรยาน นักว่ายน้ำ หรือคนที่ออกกำลังกายหนัก ต้องการคาร์โบไฮเดรต 30-60 กรัมสำหรับการวิ่ง 1 ชั่วโมง

“สำหรับนักวิ่ง นักว่ายน้ำ นักจักรยาน หรือคนที่ออกกำลังกายเกินกว่า 60 นาที พวกเขาต้องการพลังงานชดเชยสำหรับพลังงานที่สูญเสียไป เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะในขณะที่คุณออกกำลังกาย ร่างกายของคุณก็จะสูญเสียคาร์โบไฮเดรตในกล้ามเนื้อไป”

แต่ว่าซอสมะเขือเทศซองหนึ่งมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเพียงแค่ 3 กรัม

นั่นหมายถึงถ้าหากต้องการปริมาณคาร์โบไฮเดรตกลับคืนมาจริงๆ จะต้องพกซอสมะเขือเทศถึง 20 ซอง

นึกภาพตามว่าจะหาวิธีในการพกซอสมะเขือเทศ 20 ซองอย่างไร ไม่นับที่จะต้องฉีกไปทีละซอง ไหนจะเผื่อฉีกไม่ขาด หรือฉีกแล้วทะลัก เลอะเทอะไปอีก มันก็ดูไม่ค่อยสะดวกเท่าไร

และที่สำคัญที่สุดคือปริมาณของเกลือหรือ ‘โซเดียม’ ที่มีในซองสูงถึงซองละ 90 มิลลิกรัม หากกินในปริมาณ 20 ซอง ก็จะเกินความต้องการของร่างกายไปมาก และอาจเป็นอันตรายได้เลยทีเดียว

เอมี สตีเวนส์ นักโภชนาการด้านกีฬาจากทีมกีฬามหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ยังบอกด้วยว่า มะเขือเทศนั้นเป็นสิ่งที่สร้างกรดขึ้นมา และนั่นทำให้นักกีฬาพยายามเลี่ยงการกินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมะเขือเทศในระหว่างการแข่งขัน

ดังนั้นข้อสรุปของเราคือ ถึงซอสมะเขือเทศจะพอทดแทนพลังงานได้ตามหลักการ แต่ในการปฏิบัติจริงเป็นสิ่งที่ไม่เข้าท่าเท่าไรนัก สำหรับนักวิ่งจะลองก็ได้ แต่อย่าหาทำดีกว่า ไปกินเจลพลังงานแบบเดิมเถอะ

Run On Heinz สุดท้ายจึงเป็นเรื่องของแคมเปญการตลาดสนุกๆ เพื่อสร้างสีสันและการรับรู้ของแบรนด์ซอสมะเขือเทศ

โดยมีกิมมิกเล็กๆ ด้วยการฝากไว้ตามร้านอาหารให้เหล่านักวิ่งได้แวะไปขอซอสมะเขือเทศมาเติมพลังงาน โดยเส้นทางวิ่งที่จะสามารถหาซอสมะเขือเทศได้นั้นจะปรากฏในแอปพลิเคชันอย่าง Strava และ MapMyRun ซึ่งจะมีรูทวิ่งของเมืองใหญ่ๆ อย่างนิวยอร์ก, โทรอนโต และ ซานฟรานซิสโก

ลองทายสิว่ารูปร่างของเส้นทางวิ่งนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร?

ใช่แล้ว เป็นรูปฉลากอันเป็นเอกลักษณ์ของ Heinz ที่ใครเห็นก็รู้ได้ทันทีนั่นเอง

ว่าแต่…เมืองไทยเราน่าลองเป็นแบบซอสศรีราชาอะไรแบบนี้เหมือนกันนะ

อ้างอิง: