วันนี้ (8 พฤษภาคม) วรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวผ่านเพจ Voranai Vanijaka-วรนัยน์ วาณิชกะ เรื่อง ‘เลือก 19 แคนดิเดต ส.ก. รวมไทยยูไนเต็ด เลือกนโยบายเพิ่มเม็ดเงินให้ กทม. เกือบ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี’ โดยระบุว่า “ใครคุมเงินคนนั้นคุมอำนาจ นั่นคือสัจธรรมชีวิต เพราะการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำรายได้กว่า 6.5 แสนล้านต่อปี ขณะที่การประปานครหลวงและการประปาส่วนภูมิภาคทำรายได้เหยียบ 5 หมื่นล้านต่อปี
“เม็ดเงินกําไรของการไฟฟ้านครหลวงบวกลบอยู่ประมาณหลักหมื่นล้านต่อปี การประปานครหลวงบวกลบอยู่ประมาณ 7-8 พันล้านต่อปี ทั้งหมดควรเข้าสู่ กทม. เพื่อนำมาพัฒนาเมืองหลวงของเรา แต่ตั้งแต่ไหนแต่ไรทั้งหมดเข้าสู่กระเป๋ากระทรวงมหาดไทย อำนาจกระจุกในมือ นี่คือหนึ่งในเหตุผลของการแก่งแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
“ทําไมจะทําไม่ได้ ในเมื่อกฎหมายให้ทำได้ เพียงแต่ไม่มีใครทํา เรามี พ.ร.บ.กระจายอำนาจ ว่าด้วยการโอนภารกิจจากรัฐบาลและส่วนกลางให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สรุปคือทําได้ และ 19 แคนดิเดต ส.ก. ของพรรครวมไทยยูไนเต็ด จะผลักดันการทวงคืนการไฟฟ้านครหลวงและการประปานครหลวงให้ กทม.
“หนึ่งในการกระจายอํานาจคือ ให้แต่ละจังหวัดรับผิดชอบบริหารนํ้าไฟของตน รายได้เข้ากระเป๋าจังหวัดของตน นำมาพัฒนาจังหวัดของตน ประสิทธิภาพและประสิทธิผลขึ้นอยู่กับทีมบริหารที่ตนเลือกตั้งมา ทำไม่ดี 4 ปีไล่ออก ถ้าทำดีอยู่ต่ออีก 4 ปี สิ่งนี้จะช่วยให้อํานาจกระจาย ยึดโยงต่อพื้นที่ ตราจสอบง่ายกว่า เพราะอำนาจไม่ล้นมือ
“สำหรับงบประมาณ กทม. 79,000 ล้านบาท ประกอบด้วย รายจ่ายภารกิจประจำพื้นฐาน 53,574 ล้านบาท (67.81%), รายจ่ายภารกิจยุทธศาสตร์ 2,211 ล้านบาท (2.80%), รายจ่ายเพื่ออุดหนุนหน่วยงานในกำกับ 2,796 ล้านบาท (3.54%), รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินยืมเงินสะสม 6,002 ล้านบาท (7.60%) และรายจ่ายงบกลาง 14,414 ล้านบาท (18.25%)
“สรุปคืองบมีไว้พอแค่รักษาความเหมือนเดิม ถ้าจะต่อยอดการพัฒนาต้องเพิ่มเงินสักสองหมื่นล้าน เอามาช่วยปากท้องประชาชน เพิ่มพื้นที่สีเขียว จะแก้ปัญหาเส้นเลือดฝอยหรือทำเมกะโปรเจ็กต์ แต่ปัญหาคือจะเอาเงินมาจากไหน? ต้องกู้ยืมหรือแบมือขอรัฐบาลกลาง
“การทวงคืนการไฟฟ้านครหลวงและการประปานครหลวงคือการนําค่านํ้าค่าไฟที่คนกรุงเทพฯ จ่าย กลับมาพัฒนากรุงเทพฯ เอาอำนาจที่กระจุกอยู่ในมือกระทรวงมหาดไทยมากระจายในพื้นที่ บริหารโดยทีมงานที่ได้รับการเลือกตั้งจากคนในพื้นที่
“ส่วนคําถามคือทำอย่างไร ก็คือคำตอบในวันที่ 22 พฤษภาคม เลือก 19 แคนดิเดต ส.ก. ของรวมไทยยูไนเต็ด เข้าไปผลักดันในสภากรุงเทพฯ ผลักดันกับผู้ว่าฯ กทม. เป็นกระบอกเสียงของชาวกรุงเทพฯ 6 ล้านกว่าคน ทวงคืนการไฟฟ้านครหลวงและการประปานครหลวงจากกระทรวงมหาดไทย แก้โครงสร้างเพื่อกระจายอำนาจ
“แต่ถ้าเราไม่ร่วมมือกันใช้ระบบประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม คุณภาพชีวิตก็จะเหลื่อมล้ำและด้อยพัฒนาเหมือนเดิม แล้วเราก็ต้องมานั่งทวีตบ่น นอนโพสต์ด่า กับเรื่องเดิมๆ ฉะนั้นอย่าทําในสิ่งที่เหมือนเดิม เราต้องลุกขึ้นมาทําในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะยากเพียงใด การทวงคืนไม่ใช่ความฝัน แต่คือความถูกต้อง”