วันนี้ (7 เมษายน) พรรครวมไทยสร้างชาติจัดงานใหญ่ เปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง ที่บริเวณลานอัฒจันทร์กลางแจ้ง สวนเบญจกิติ พร้อมชี้แจงนโยบายด้านต่างๆ ของพรรค
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวระหว่างปราศรัยตอนหนึ่งว่า เทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงในสัปดาห์หน้า เป็นการฉลองสงกรานต์อย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังเราพิชิตวิกฤตโควิดได้ ซึ่งการที่ประเทศไทยเปิดประเทศ-เปิดธุรกิจได้เร็ว ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะคนไทยให้ความร่วมมือ มีวินัย และรัฐบาลบริหารจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เราต้องการรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ มีประสบการณ์ พร้อมที่จะทำงานให้ต่อเนื่อง เราไม่สามารถฝากบ้านเมืองไว้กับคนที่ไม่มีประสบการณ์ ทั้งชีวิตไม่เคยทำงานอะไร 8 ปีที่ผ่านมาผมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถนำพาประเทศไทยไปตลอดรอดฝั่ง ประชาชนฝากผีฝากไข้ได้” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว พร้อมบอกอีกว่า
“ถ้าอยากให้พรรครวมไทยสร้างชาติทำต่อ สิ่งที่ผมและทีมงานทำแล้ว ทำอยู่ ไม่สูญเปล่า ต้องเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์ 22 เป็นรัฐบาล เลือกผมเป็นนายกรัฐมนตรี”
ขณะที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า นโยบายที่เรารับช่วงมามีอีกหลายเรื่อง สำคัญที่สุดคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประโยชน์ของประชาชน คนที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ได้แค่ 8 ปี หากไม่มีกฎหมายนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จะได้อยู่ต่อตลอดไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อสิ้นสุด แต่ว่า พล.อ. ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ไปไหน จะอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติในการทำงานตลอดไป อีกทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติจะอยู่ตลอดไปภายใต้หัวใจรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน หากรวมไทยสร้างชาติได้เป็นรัฐบาลจะจัดการกับพวกชังชาติ ล้มสถาบันฯ
“แผ่นดินไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลักชัยของประเทศ ถ้าคุณไม่ชอบ คุณไม่มีสิทธิ์เปลี่ยน เพราะคนไทยทั้งชาติเขาเอา ถ้าคุณไม่ชอบเชิญไปอยู่ที่อื่นครับ” พีระพันธุ์กล่าว