วันนี้ (9 พฤษภาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดเลย พรรครวมไทยสร้างชาติ อดีต ส.ส. 11 สมัย ได้นำผู้สมัคร ส.ส. สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติกว่า 50 เขต ร่วมแถลงข่าว ไม่พอใจพรรคในเรื่องการไม่ได้รับเงินสนับสนุนในการใช้หาเสียงเลือกตั้ง
โดยปรีชากล่าวว่า วันนี้จะมีผู้สมัคร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคตะวันออก บางท่านได้รวมตัวกัน จะไปแถลงข่าวเพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งได้รับปากไว้กับผู้สมัคร ส.ส. จะดูแลเรื่องเงินตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ไม่ได้รับการเหลียวแล ปล่อยลอยแพ ซึ่งทุกคนมีค่าใช้จ่าย อย่างรถแห่หาเสียงก็ไม่จ่าย ผู้สมัครต่างติดหนี้ติดสิน ต่างถูกลอยแพ หลายคนจึงได้ประสานมายังตนซึ่งเคยเป็นอดีตรัฐมนตรี ขอเป็นแกนนำแถลงข่าว เพื่อบอกให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในแต่ละภาคได้ทราบว่าพรรคได้ทอดทิ้ง ไม่ให้การสนับสนุน
นอกจากนี้มีรายงานข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติว่า มีผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพัทลุง เขต 1 กิตติ สัตรัตน์ และเขต 3 ปรัชญา นวลเปียน ที่ยุติการหาเสียงแล้ว เนื่องจากถูก ‘ตัดท่อกลางคัน’ เหลือเพียง นิติศักดิ์ ธรรมเพชร ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 ซึ่งเป็นลูกชายของ วิสุทธิ์ ธรรมเพชร ที่ยังสู้ต่อ
ด้าน หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวภายหลังรับฟังข้อเรียกร้องจากปรีชาและผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคว่า ตนได้รับมอบหมายจากพรรคให้มารับฟังข้อเรียกร้องของผู้สมัคร ส.ส. เพื่อนำไปแจ้งต่อผู้ใหญ่ของพรรคให้ทราบ อย่างไรก็ตาม เงินบริจาคที่ได้มาก็ต้องนำไปใช้ในการทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรคอย่างประหยัดและระมัดระวัง
“เราไม่สนับสนุนการซื้อสิทธิขายเสียง เราต้องการทำการเมืองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม หาเสียงด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามกติกาของ กกต. และรัฐธรรมนูญ ถ้าดำเนินงานตามนี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากแต่อย่างใด พรรคการเมืองเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน ไม่ใช่สถาบันทางการเงินเพื่อสนับสนุนการลงทุนให้ผู้สมัคร ผู้ที่เสนอตัวเพื่อมารับใช้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่พี่น้องจึงควรเป็นผู้ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด เรื่องงบประมาณก็ควรจะทราบว่าผู้สมัครเองมีงบอยู่เท่าไร” หิมาลัยกล่าว
หิมาลัยยังกล่าวด้วยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีกิจกรรมอื่นใดที่จะไปเรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มทุนต่างๆ ประชาชนจึงมั่นใจได้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติสามารถบริหารประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนได้โดยปราศจากการแทรกแซงจากกลุ่มอิทธิพลใดๆ ดังนั้น ก่อนที่ผู้ใดจะเสนอตัวเข้ามาสมัคร ส.ส. จึงควรจะศึกษาแนวทางและอุดมการณ์ของพรรคให้ดีเสียก่อน
“ผู้ใหญ่ของพรรคนี้เป็นผู้มีชื่อเสียงเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต อะไรที่ผิดทางผู้ใหญ่ของพรรคไม่ทำแน่นอน การคาดหวังของผู้สมัครในบางเรื่องที่อยู่นอกกติกาของ กกต. และกฎหมาย ทางพรรคไม่สามารถสนองตอบได้ รวมไทยสร้างชาติต้องการทำการเมืองที่โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม เพื่อมุ่งสู่อุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค ตามอุดมการณ์ของพรรคที่ว่า รวมไทยสร้างชาติ ปกป้องสถาบัน รับใช้ชาติและประชาชน” หิมาลัยกล่าวทิ้งท้าย