วันนี้ (2 ตุลาคม) ที่กระทรวงมหาดไทย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวหลังจากประกาศภัยพิบัติจะพิจารณาเงินเยียวยาอย่างไรว่า เหตุการณ์นี้เรื่องของการช่วยเหลือตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มีอยู่ว่าเราจะช่วยเรื่องการทำขวัญ โดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานเบื้องต้นว่า จะมีเงินที่ชดเชยความเสียหายเหล่านี้อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย ตนได้กล่าวย้ำไปว่าต้องไม่มีเงื่อนไขอะไรอีก เพราะเท่าไรก็ไม่คุ้มกับการสูญเสีย แต่เราต้องเร่งจ่ายเงินเยียวยานี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าเรื่องนี้มีความเสียหายมาก เป็นเรื่องที่มีระดับความรุนแรงอยู่ในระดับสูง ดังนั้นจะต้องหาทางที่จะเยียวยาในระดับสูงสุด
ส่วนเรื่องตัวเลขอายุการใช้งานที่ระบุว่า 2554 ปีของรถบัสคันดังกล่าวนั้น อนุทินบอกว่าเป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคม ส่วนของกระทรวงมหาดไทยดูในเรื่องของการให้การดูแลครอบครัว การจัดงานให้สมเกียรติ การนี้เราได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ตนได้รับการแจ้งล่วงหน้ามาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใยและทรงสลดพระทัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้แจ้งมาว่าพระองค์ท่านจะรับการจัดการเรื่องงานทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จะมีการพระราชทานเพลิงศพให้กับผู้ที่สูญเสียชีวิตไป โดยกระทรวงมหาดไทยถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีไปจัดการหน้างานให้สมเกียรติกับผู้วายชนม์ ซึ่งมีทั้งครูและนักเรียน
ส่วนที่กระทรวงศึกษาธิการมีข้อถกเถียงเรื่องของการยกเลิกการทัศนศึกษา อนุทินกล่าวว่า ตนได้ยินคำนี้มาหลายครั้งแล้ว เมื่อมีเหตุเมื่อวานก็ได้ยินเยอะ ตนคิดว่าการไปทัศนศึกษาไม่ใช่มูลเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้คือเรื่องมาตรฐานของคนขับรถ มาตรฐานการจัดรูปขบวนในการเดินทาง คุณภาพของรถ อย่างกรณีนี้เราต้องไปดู เพราะตนเห็นกับตา ทำไมรถบัสคันหนึ่งถังแก๊สเยอะขนาดนี้ ตนนับๆ ดูเป็น 10 ถัง ตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยอยู่กรมการขนส่งทางบก ก็ต้องไปดูก่อนว่ากฎหมายเขากำหนดไว้อย่างไร มีถังแก๊สตั้งแต่หน้ารถ กลางรถ ท้ายรถ ข้างรถ จะเดินทางอะไรกัน จะไม่ต้องพักต้องผ่อนกันเลยเหรอ มองจากสายตาที่ตนเคยเป็นวิศวกรคุมงานมาก่อน ตนก็มองว่าควรจะมีแผ่นเหล็กที่คอยกั้นไม่ให้ประกายไฟถึงตัว คือจะต้องเซฟตี้มากกว่านี้ เป็นพื้นที่นิรภัย ตนมั่นใจว่ามาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกเรามีอยู่แล้ว แต่เราไม่รู้ว่ารถคันนี้ผ่านการตรวจสภาพมาได้อย่างไร ตำรวจก็คงจะต้องทำหน้าที่สืบขยายผล แต่ที่เห็นเมื่อวานถามว่าปลอดภัยหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ปลอดภัยแน่นอน
ส่วนในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง เราจะขับเคลื่อนเรื่องนี้แก้กฎหมายในสภาหรือไม่นั้น อนุทินย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นหน้าที่ของทุกคน เราต้องช่วยกันทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับลูกหลานของเรา อย่างที่บอก การไปทัศนศึกษาเป็นสิ่งที่ดี ไม่อย่างนั้นเด็กก็อยู่แต่ในห้องเรียน เห็นทุกอย่างจากรูป ไม่เห็นของจริง แต่การจัดรูปแบบทำอย่างไรให้ดีจริงๆ ก็มีกฎอยู่ สามารถที่จะประสานขอรถตำรวจนำได้ รถทางหลวงนำได้ ต้องกำหนดเรื่องของความเร็ว เรื่องของผู้ใหญ่ที่อยู่ในรถ ที่จะสามารถคอยให้การช่วยเหลือเด็กๆ และกำหนดจำนวนคนขับรถ อย่างกรณีเมื่อวานก็คือรถหนึ่งคันคนหนึ่งคน ไม่มีอะไรเลย ไม่มีผู้ช่วยคนขับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รู้จักรถเลย มีแต่ครูกับนักเรียน พอเกิดเหตุการณ์คนขับก็วิ่งลงมาดูก่อน ไม่มีผู้ช่วยลงมาคอยปลดล็อกเปิดประตูฉุกเฉิน ถีบหน้าต่างเป็นช่องทางฉุกเฉินเลย มันชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการละเมิด