Rolling Pinn ขนมหวานร้อยล้าน ที่กินใจลูกค้าจากการปรับ Pain Point เป็นโอกาส

ในยุคที่ร้านขนมเปิดใหม่ทุกวัน กระแสสร้างได้ไม่ยาก แต่จะยืนระยะให้นานและขยับจากไวรัลกลายเป็นแบรนด์ในใจผู้คนกลับไม่ง่าย

 

แต่ Rolling Pin คือหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่ทำได้

 

นี่คือแบรนด์ขนมหวานที่เริ่มต้นจาก Passion ธรรมดา แต่เติบโตด้วยแนวคิดไม่ธรรมดา จาก ‘พิณ เจนวัฒนวิทย์’ เจ้าของแบรนด์ Rolling Pin ที่ไม่ได้มองตัวเองแค่เป็นนักอบขนม เธอคือคนที่ใช้ ‘ปัญหาของลูกค้า’ เป็นจุดตั้งต้นในการสร้างผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น

 

🟡 เมื่อ ‘Pain Point’ คือขุมทรัพย์ทางการตลาด

 

ปรากฏการณ์ ‘ดูไบช็อกโกแลต’ ของ Rolling Pinn คือกรณีศึกษาที่ชัดเจนที่สุดที่แสดงให้เห็นว่า Pain Point ของลูกค้าสามารถกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจมูลค่ามหาศาล

 

ในช่วงที่ขนมชิ้นเกิดกระแสทั่วบ้านทั่วเมือง พิณสังเกตเห็นฟีดแบคจากผู้บริโภคชาวไทยที่ได้ลองชิมดูไบช็อกโกแลตจากต่างประเทศแล้วพบปัญหาเดียวกันคือ ‘รสชาติหวานเกินไป’

 

ดังนั้น แทนที่จะทำสินค้าตามต้นฉบับ พวกเขาตัดสินใจพัฒนาสูตรที่ลดความหวานลงเพื่อให้ถูกปากคนไทย ผลลัพธ์คือผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ กลายเป็นสินค้าไวรัลที่ทุกคนต้องการ และส่งให้ Rolling Pin กลายเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง 

 

🟡 จากขนมที่ลูกค้ากินไม่หมด สู่การปรับปรัชญาทั้งแบรนด์

 

“เค้กสวยมาก แต่อยู่ดีๆ ก็กินไม่หมด”

 

ขนมของ Rolling Pinn ถูกออกแบบให้มีความสวยงาม น่าดึงดูด และรสชาติที่เข้มข้นจากวัตถุดิบคุณภาพ แต่ในวันที่พิณได้เข้าไปพูดคุยกับลูกค้า เธอกลับพบว่าหลายครั้งที่ลูกค้าชมว่าขนมอร่อย แต่กลับเหลือเต็มจาน

 

เธอได้รู้ว่าเค้กของเธออาจมีรสชาติที่เข้มข้นเกินไป ทำให้ลูกค้าทานได้ไม่กี่คำก็รู้สึกแน่น Pain Point นี้ไม่ได้นำไปสู่การปรับสูตรเค้กแค่ชิ้นเดียว แต่เป็นการปรับปรัชญาการทำขนมทั้งแบรนด์ โดยหันมาสร้างสรรค์ขนมที่เบาขึ้นและหวานน้อยลง เพื่อให้ลูกค้าสามารถมีความสุขกับขนมได้จนหมดชิ้น และรู้สึกคุ้มค่า กับเงินที่จ่ายไป

 

🟡 สร้างสรรค์ ‘กิมมิค’ ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง

 

แม้แต่ ‘กิมมิค’ หรือลูกเล่นที่สร้างความตื่นตาตื่นใจของ Rolling Pin ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะทำของแปลกใหม่เพียงอย่างเดียว แต่ล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากการแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการบางอย่างของลูกค้า

 

🔸Glitter Queen Cake: ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสร้าง ‘ประสบการณ์วันเกิดที่พิเศษและมหัศจรรย์ที่สุด’ ด้วยกิมมิคการเป่ากลิตเตอร์ที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

🔸Canvas Cake: แก้ปัญหาของลูกค้าที่อยากได้เค้กสวย ถ่ายรูปขึ้น แต่มีงบจำกัดและต้องการความสะดวกในการจัดส่ง ด้วยดีไซน์เค้กที่ตั้งได้เหมือนกรอบรูป ซึ่งดูสวยงามในราคาที่เข้าถึงง่าย

🔸ดูไบช็อกโกแลตแบบแท่ง: หลังจากรุ่นแรกที่เป็นรูปหัวใจประสบความสำเร็จ ก็ยังมี Pain Point เรื่องไส้กับช็อกโกแลตไม่สมดุล ทำให้กินยาก ทีมจึงออกแบบสินค้ารุ่นใหม่ให้เป็นแบบแท่งที่แก้ปัญหานี้ได้สำเร็จ ทำให้ทานง่ายขึ้นและได้รับการตอบรับดียิ่งกว่าเดิม

 

จะเห็นได้ว่านวัตกรรมของ Rolling Pin ไม่ได้เกิดในสุญญากาศ แต่เกิดจากการเชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์เข้ากับการแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างลงตัว นั่นคือการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง หัวใจสำคัญที่ผู้ประกอบการทุกคนสามารถเรียนรู้ได้คือ การเปลี่ยนมุมมองจากการพยายาม ‘ขายของ’ ไปสู่การ ‘แก้ปัญหา’ ให้ลูกค้า