×

“มันอาจเป็นการขอบคุณแบบลับๆ” โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ กับวันอำลาและการกุมมือ ราฟาเอล นาดาล ไว้

28.09.2022
  • LOADING...
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์

HIGHLIGHTS

4 mins. read
  • ภาพที่ทำให้หลายคนประทับใจมากที่สุดในเหตุการณ์วันนั้นท่ามกลางภาพสวยๆ หลายร้อยหลายพันภาพ คือภาพการนั่งกุมมือกันระหว่างเฟเดอเรอร์กับ ราฟาเอล นาดาล – คู่แข่งแห่งชีวิต – ที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นโดยไม่รู้จะหาทางปลอบประโลมอย่างไร
  • Friendly Rivalry คือคำที่เฟเดอเรอร์นิยามให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและนาดาล และในความพยายามของเพื่อนรักนักกีฬาครั้งนี้มันทำให้เขาซาบซึ้งใจ

เวลาอาจผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ความรู้สึกของแฟนเทนนิสที่มีต่อการอำลาของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยังคงค้างคาอยู่

 

บนโซเชียลมีเดียมีบทความมากมาย ที่ไม่ว่าเพจไหนจะเกี่ยวกับเทนนิสหรือไม่ต่างพร้อมใจกันเขียนถึง เพื่อร่วมบอกลาแก่สุดยอดนักเทนนิสตลอดกาลคนนี้เป็นครั้งสุดท้าย

 

แน่นอนว่าภาพที่ทำให้หลายคนประทับใจมากที่สุดในเหตุการณ์วันนั้นท่ามกลางภาพสวยๆ หลายร้อยหลายพันภาพ คือภาพการนั่งกุมมือกันระหว่างเฟเดอเรอร์ กับ ราฟาเอล นาดาล – คู่แข่งแห่งชีวิต – ที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นโดยไม่รู้จะหาทางปลอบประโลมอย่างไร

 

สำหรับแฟนกีฬา มันคือภาพที่สะท้อนเรื่องราวและความรู้สึกของสุดยอดนักกีฬาทั้งสอง ที่ใช้การแข่งขันที่เข้มข้นขับเคี่ยวกันมาตลอดชีวิต เป็นแรงผลักดันกันและกันให้เป็นคนที่ดีขึ้น

 

และในการแข่งขันกันนั้นได้ก่อให้เกิดมิตรภาพที่น่ามหัศจรรย์ขึ้นด้วย


แต่สำหรับเฟเดอเรอร์ ที่ไม่ว่าจะเขาหรือเราเองต่างก็ยังไม่ชินกับคำว่า ‘อดีตนักเทนนิส’ เขารู้สึกอย่างไรกันแน่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น?

 

ขวัญใจตลอดกาลวัย 41 ปีเปิดเผยถึงความรู้สึกของตัวเองผ่านบทสัมภาษณ์ใน The New York Times ได้อย่างน่าสนใจ เริ่มจากเรื่องความรู้สึกของตัวเองหลังจากที่ทุกอย่าง ‘จบ’ แล้ว

 

“ผมรู้สึกว่าชีวิตของผมสมบูรณ์แล้ว” เฟเดอเรอร์บอก “ผมแพ้เกมเดี่ยวแมตช์สุดท้าย ผมแพ้เกมคู่แมตช์สุดท้าย ผมเสียงแหบเพราะตะโกนเชียร์ทีมของผม ผมแพ้ในการแข่งทีมครั้งสุดท้าย และผมก็ตกงานด้วย


“แต่ผมมีความสุขมาก ทุกอย่างดี ดีมากจริงๆ” เฟเดอเรอร์ยืนยันให้แฟนๆ สบายใจได้ เพราะหลายคนเสียใจที่เขาไม่ได้รับชัยชนะในการลงเล่นครั้งสุดท้ายอย่างที่ควรจะเป็น เหมือนในเทพนิยายที่เจ้าชายและเจ้าหญิงจะได้ครองรักกันชั่วนิรันดร์

 

สำหรับเฟดแล้วเขายืนยันว่าไม่เป็นไรเลย “นี่คือส่วนที่ย้อนแย้งที่สุด ทุกคนน่าจะคิดถึงตอนจบที่สวยงามเหมือนเทพนิยาย แต่รู้ไหมสำหรับผมแล้วมันได้จบลงอย่างที่ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะจบลงแบบนี้เหมือนกัน”


หนึ่งในคนที่ทำให้ฉากสุดท้ายของเขางดงามที่สุดคือนาดาล ที่แม้จะมีห่วงในเรื่องที่ภรรยากำลังจะคลอดลูก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะมาใช้เวลาช่วงสุดท้ายในการเป็นนักเทนนิสของเฟเดอเรอร์ด้วยกัน

 

“ผมโทรหาเขาหลังจบรายการยูเอสโอเพน ผมรอให้เขาแข่งจบในทัวร์นาเมนต์ก่อน แล้วค่อยบอกเขาเรื่องที่ผมจะเลิกเล่น” เฟเดอเรอร์เล่าเบื้องหลัง พร้อมกับบอกว่าเขาพยายามเล่าแผนการอำลาในรายการเลเวอร์คัพให้นาดาลฟังก่อนที่คู่แข่งที่กลายมาเป็นคู่หูจะเปลี่ยนใจ เพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้นาดาลมีสิ่งที่ต้องกังวลกว่าการลงแข่งเทนนิสมาก

 

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์

 

“ผมบอกกับเขาทางโทรศัพท์ว่าผมมีโอกาส 50-50 หรือ 60-40 ที่จะลงเล่นในประเภทคู่ได้ แล้วก็บอกเขาว่า ผมจะอัปเดตเรื่อยๆ ส่วนเขาก็ขอให้บอกแล้วกันว่าทางบ้านเป็นอย่างไร เผื่อเราจะได้เล่นด้วยกันอีกครั้ง”


นาดาลให้คำตอบทันทีด้วยการบอกว่า เขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ที่จะไปอยู่ที่นั่นกับเฟเดอเรอร์ “มันแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเรามีความหมายต่อกันแค่ไหน และเรานับถือกันมากแค่ไหน”

 

สำหรับเฟเดอเรอร์ การปิดฉากชีวิตการเล่นของเขากับคู่แข่งที่ดีที่สุดด้วยการเล่นเคียงข้างกัน ไม่น่าจะมีอะไรที่งดงามไปมากกว่านี้

 

“ผมแค่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องราวที่งดงามและมหัศจรรย์สำหรับพวกเรา สำหรับวงการกีฬา และสำหรับเทนนิส หรืออาจจะไปได้ไกลกว่านั้น ซึ่งมันมีช่วงที่เราเคยเป็นคู่แข่งกันอย่างหนัก แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้และทำให้เห็นว่ามันก็เป็นแค่การเล่นเทนนิส เพราะถึงมันจะมีช่วงที่ยาก มีช่วงที่หนักหนาในบางครั้ง แต่มันก็เป็นการสู้กันอย่างยุติธรรม”

 

Friendly Rivalry คือคำที่เฟเดอเรอร์นิยามให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและนาดาล และในความพยายามของเพื่อนรักนักกีฬาครั้งนี้มันทำให้เขาซาบซึ้งใจ

 

“ผมจะไม่มีวันลืมที่สิ่งเขาทำให้แก่ผมที่ลอนดอนเลย”


ภาพการเสียน้ำตาของทั้งเขาและนาดาลยังทำให้แฟนกีฬาทั่วโลกหัวใจอ่อนระทวยตามไปด้วย เพราะมันคือความรู้สึกจริงๆ จากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ คนหนึ่งไม่อยากจะเลิกเล่นกีฬาอันเป็นที่รัก ขณะที่อีกคนไม่อยากให้คู่แข่งที่เป็นเหมือนอีกส่วนหนึ่งของชีวิตหายไป

 

นักเทนนิสชายที่ปกติจะดูขึงขัง ดุดัน หรือเงียบขรึม ยืนร้องไห้กันราวกับเด็กขี้แย สำหรับเฟเดอเรอร์แล้วมันไม่ใช่เรื่องปกตินัก แต่มันก็เป็นความรู้สึกจริงๆ ของพวกเขา ไม่ใช่แค่เขากับนาดาล แต่ยังรวมถึง โนวัค ยอโควิช และ แอนดี เมอร์เรย์ ที่ต่างอายุเกินกว่า 30 ปีเหมือนกัน ในความเห็นแล้วทุกคนอยู่มานานเกินกว่าที่ควรจะเป็น เหมือนกับการขอทดเวลาออกมาเรื่อยๆ

 

ฉากสุดท้ายของเฟเดอเรอร์จึงเป็นกระจกสะท้อนสัจธรรมของชีวิตด้วย


ส่วนภาพที่ ‘จับใจ’ ผู้คนมากที่สุด อย่างภาพการกุมมือกันระหว่างเขาและนาดาลนั้น เฟเดอเรอร์ยืนยันว่าเขาได้เห็นภาพนี้แล้ว

 

“ผมได้เห็นมันแล้ว” เขาบอกก่อนจะเล่าต่อว่า “มันเป็นช่วงเวลาครู่เดียว ผมคิดว่าตอนนั้นผมน่าจะสะอื้นอย่างหนักและผมก็ไม่รู้ตัว ทุกอย่างมันผ่านเข้ามาในใจถึงความสุขที่ผมได้สัมผัสในช่วงเวลานั้นกับทุกคน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่งดงามที่ได้นั่งอยู่ตรงนั้น ได้ซึมซึบมันในขณะที่การแสดงดนตรีกำลังเล่นไป ทุกคนกำลังสนใจนักร้อง (เอลลี โกลดิง) ที่แสดงโชว์ในวันนั้น ดังนั้นมันทำให้ผมอาจจะเผลอลืมไปว่าทุกคนยังเก็บภาพอยู่”


และการจับมือนั้นมีความหมาย

 

“ผมเดาเอาว่าในช่วงหนึ่งที่ดนตรียังแสดงและผมพูดไม่ได้ ผมเดาว่าผมได้สัมผัสกับเขา และผมเดาว่าบางทีมันอาจจะเป็นการขอบคุณแบบลับๆ” เฟดพูดถึงซีนจับมือกันที่ทำให้แฟนๆ น้ำตาแตกทั้งโลก “ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไรนะ แต่สำหรับผม มันอาจจะเป็นตามสิ่งที่เกิดขึ้น ความรู้สึกในตอนนั้น และมันก็กลายเป็นภาพออกมา”

 

ภาพนั้นไม่ได้มีแค่ภาพเดียวและไม่ได้มีแค่มุมเดียว

 

แต่ไม่ว่าจะมุมไหนมันก็เป็นภาพที่งดงาม และหากจะเป็นภาพจำครั้งสุดท้ายของสุดยอดนักเทนนิสผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลคนนี้


บางทีคงไม่มีภาพใดจะดีไปกว่า ‘Secret Thank You’ ภาพนี้อีกแล้ว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising