วานนี้ (12 มีนาคม) ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ของฟิลิปปินส์ ประกาศสั่งปิดกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศ ที่มีพลเมืองอาศัยอยู่ราว 12 ล้านคน จำกัดการเข้าออกเพื่อกักกันโรค หลังยอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 52 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
ผู้นำฟิลิปปินส์หวังว่า รัฐบาลจะสามารถหยุดยั้งและควบคุมการระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนที่จะขยายตัวเป็นวงกว้างอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในอิตาลี อิหร่าน หรือเกาหลีใต้ ที่ยอดผู้ติดเชื้อรวมกันแล้วกว่า 33,000 ราย หรือคิดเป็นเกือบ 25% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วโลก
หากสถานการณ์การแพร่ระบาดบานปลายจนยากที่จะควบคุม รัฐบาลฟิลิปปินส์จะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลจีน หลังจากที่จีนเพิ่งประกาศว่า จุดสูงสุดของการระบาดในจีนสิ้นสุดแล้ว และยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตก็อยู่ในช่วงชะลอตัว ขณะที่นอกจีนแผ่นดินใหญ่กำลังเผชิญหน้ากับการระบาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
“บางทีเราอาจจะไปถึงจุดที่สิ่งต่างๆ เริ่มถูกทำลายและไม่สามารถควบคุมได้ ผมอาจจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากประเทศจีน ผมหวังว่า เราจะไม่ต้องเดินไปถึงจุดนั้น แต่บางทีเราอาจต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ”
ล่าสุด ยอดผู้ติดเชื้อในฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 4 ของย่านอาเซียน ต่อจากสิงคโปร์ (187 ราย) มาเลเซีย (158 ราย) และไทย (75 ราย) จากทั้งหมด 8 ประเทศในย่านนี้ที่พบรายงานผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว มีเพียงเมียนมาและลาวเท่านั้นที่ยังไม่พบรายงานผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการ
ภาพ: Ted Aljibe / AFP
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: