Fenty Beauty แบรนด์ความงามที่ดึงเวลาในการทำเพลงของ Rihanna ไปหลายปีนับตั้งแต่เปิดแบรนด์เมื่อปี 2017 จนถึงปัจจุบัน มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ไปดูกัน
Rihanna ก่อตั้งแบรนด์ Fenty Beauty ด้วยแนวคิดที่ต้องการให้เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่อยู่เคียงข้างผู้หญิงทั่วโลกในการสร้างสรรค์ความงาม และอยากมอบความสนุกสนานในการลุกขึ้นมาแต่งหน้า ที่ไม่ใช่การสร้างแรงกดดันหรือทำให้รู้สึกเหมือนเป็นสูตรสำเร็จที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความงามของใคร
ซึ่งนับตั้งแต่ที่ Fenty Beauty เปิดตัวในปี 2017 ด้วยรองพื้นที่มีถึง 40 เฉดสี ครอบคลุมผิวหลากหลายโทนสี ต้องยอมรับว่า ณ เวลานั้นแบรนด์ของ Rihanna ก็สร้างปรากฏการณ์ในวงการความงามทันที เพราะถือเป็นแบรนด์แรกๆ ที่สปอตไลต์ส่องมาจากทุกมุมโลก (ด้วยความเป็น Rihanna แหละ) ที่เธอก็ประกาศว่าจะมุ่งเน้นสร้างแบรนด์ความงามเพื่อเข้าถึงความหลากหลายและครอบคลุมทุกสีผิว ทุกเพศ ทุกวัย หลังจากนั้นแบรนด์ก็ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งลิปสติก บลัชออน คอนซีลเลอร์ ไฮไลต์ รวมถึงสกินแคร์อย่าง Fenty Skin ที่เปิดตัวตามมาเมื่อปี 2020
จุดเด่นของ Fenty Beauty คือการเปิดตลาดในกลุ่มสาวผิวสีที่เดิมทีตลาดเครื่องสำอางตอนนั้นยังไม่ค่อยใส่ใจนัก พร้อมกับการสื่อสารที่ฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ผ่านแคมเปญการตลาดสุดสร้างสรรค์ ที่สะท้อนความหลากหลายและความรักในตัวเอง มีการเลือกโมเดลที่มีสีผิวและรูปร่างแตกต่างกัน
ความสำเร็จของแบรนด์ นอกจากจะมาจากความแตกต่างและการสร้างเทรนด์ใหม่ๆ แล้ว ชื่อเสียงของ Rihanna ก็มีส่วนสำคัญมาก การที่ศิลปินระดับโลกมาช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์และเป็นพรีเซนเตอร์ ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์โดดเด่นและมีแรงดึงดูดมาก จนทำให้ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด มียอดขายมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และล่าสุดมูลค่าของแบรนด์ก็พุ่งสูงถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์
ความพิเศษที่ทำให้ Fenty Beauty ประสบความสำเร็จคือการทลายกฎเกณฑ์ของวงการความงาม โดยทำให้ผู้บริโภคทุกคนรู้สึกได้ว่าสามารถใช้เครื่องสำอางอย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลว่าตัวเองจะอินเทรนด์หรือไม่ จะหาเฉดสีหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช่เจอหรือเปล่า พร้อมยกระดับคอมมูนิตี้ความงามที่เฉลิมฉลองความแตกต่างหลากหลาย ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ วัย หรือเพศ นี่จึงเป็นพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของ Fenty Beauty ให้เติบโตอย่างรวดเร็วและน่าจับตามอง
อ้างอิง: