วานนี้ (7 เมษายน) ได้มีการเผยแพร่งานวิจัยหัวข้อ ‘ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อของแฟนฟุตบอลไทยต่อการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2566-2567 ในระบบบอกรับสมาชิก’ โดยคณะบริหารธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งสำรวจเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ก่อนเปิดฟุตบอลไทยลีก เลก 2 และการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คนใหม่แทน พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เพิ่งหมดวาระ
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผ่านช่องทางออนไลน์ของสื่อ อินฟลูเอ็นเซอร์กีฬา และกลุ่มแฟนคลับฟุตบอลไทย พบว่า ช่องทางยอดนิยมที่มีผู้สมัครรับชมการถ่ายทอดสดมากที่สุด ได้แก่ AIS PLAY ร้อยละ 59.14 รองลงมา ได้แก่ TrueID และ 3BB GIGA TV ตามลำดับ
โดยผู้สมัครส่วนมากเลือกสมัครรับชมผ่านทางระบบ QR Code มากที่สุดร้อยละ 68.8 ตามด้วยผ่านระบบ SMS และการกรอกโค้ดที่ซื้อผ่านทางออนไลน์
ด้านปัญหาของฤดูกาล 2566-2567 ที่ประชาชนต้องสมัครสมาชิกเพื่อรับชมการถ่ายทอดสดไทยลีกเองนั้น ร้อยละ 79.5 ระบุว่า เป็นปัญหาในการขาดประสิทธิภาพที่ทำให้เกิดปัญหาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไทยลีก
นอกจากนี้งานวิจัยยังระบุอีกว่า ร้อยละ 41 ไม่เคยเห็นมาตรการการปราบปรามลิงก์เถื่อนจากทางสมาคมฟุตบอลฯ และผู้บริหารสิทธิประโยชน์
ขณะที่ความคาดหวังต่อสมาคมฟุตบอลฯ ยุคใหม่ของ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ร้อยละ 67.3 เชื่อว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ จะทำให้ฟุตบอลไทยมีโอกาสพัฒนามากขึ้น ร้อยละ 88.7 ระบุว่า ปัญหาเรื่องคุณภาพกรรมการ หากมีการปรับปรุงจะสร้างมาตรฐานให้กับฟุตบอลไทยลีกมากขึ้น ร้อยละ 85.9 มองว่า ราคาแพ็กเกจรับชมการถ่ายทอดสดเดือนละ 59 บาท และฤดูกาลละ 500 บาท เหมาะสม โดยร้อยละ 72.2 ระบุว่า หากฤดูกาล 2567-2568 ต้องเสียเงินสมัคร ก็จะสมัครเพื่อรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกอีกเช่นเดิม