เกิดที่แคนาดา จบการศึกษาปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่กรุงโตเกียว เปิดบริษัทด้านการออกแบบแห่งแรกชื่อ เนนโดะ (Nendo) ที่มิลาน หลังจากนั้น 1 ปี ได้รับคัดเลือกให้เป็น The 100 Most Respected Japanese และล่าสุดได้ร่วมกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติเดนมาร์ก Republic of Fritz Hansen ออกแบบเก้าอี้ไม้ที่ถ่ายทอดแนวคิดมินิมัลในแบบฉบับ ‘โอกิ ซาโตะ (Oki Sato)’ ดีไซเนอร์และสถาปนิกชาวญี่ปุ่นวัย 41ปี ผู้นำปรัชญาความเรียบง่าย ซึ่งอยู่ในวิถีแดนอาทิตย์อุทัยมาแปรเปลี่ยนเป็นสไตล์และงานดีไซน์ที่ทั่วโลกต่างจับตามอง

จงเป็นดั่งดินเหนียว

เมื่อแรงบันดาลใจอัดแน่นอยู่ในทุกตารางนิ้วของมิลาน สถาปนิกหนุ่มไฟแรงชาวญี่ปุ่น โอกิ ซาโตะ จึงไม่ลังเลที่จะก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน แล้วไปเปิดสตูดิโอแห่งแรกของตนเองขึ้นที่ประเทศอิตาลีเมื่อ 13 ปีก่อน แน่นอนว่าที่นั่นคือเวทีของเหล่าดีไซเนอร์ทั้งชั้นนำและหน้าใหม่จากทั่วโลก แต่ด้วยความชัดเจนในการดึงเอาดีเอ็นเอความเรียบง่าย ที่ซ่อนอยู่ในวิถีชีวิตและระบบความคิดออกมานำเสนอ ก็ทำให้ชื่อของซาโตะและสตูดิโอเนนโดะ ก้าวเข้ามาอยู่ในสปอร์ตไลต์ของวงการดีไซน์ระดับโลกได้ในเวลาไม่นาน

มากกว่าความมินิมัลที่เปี่ยมด้วยรายละเอียดและความหมาย ซาโตะยังเป็นนักออกแบบที่ไม่เคยตีกรอบงานของตัวเอง เพราะแม้เขาจะจบด้านสถาปัตยกรรม แต่กลับสร้างสรรค์งานที่หลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ กระป๋องเบียร์ ถ้วยบะหมี่ งานศิลปะ ไปจนถึงงานตกแต่ง รีโนเวตอาคาร ห้างสรรพสินค้า ซาโตะก็เคยฝากผลงานไว้หมด ซึ่งความยืดหยุ่นและความหลากหลายในการสร้างสรรค์งานของเขาช่างสอดคล้องกับชื่อของสตูดิโอเนนโดะ ที่มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ดินเหนียว อันเป็นดินที่มีความยืดหยุ่น สามารถปั้นแต่ง ขึ้นรูป หรือเปลี่ยนรูปได้อย่างไร้ข้อจำกัด

การมองตัวเองเป็นดินเหนียวที่มีความยืดหยุ่น ทำให้ดีไซเนอร์หนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผู้มองโลกผ่านกรอบแว่นตาของความมินิมัลผู้นี้กลายเป็นดีไซเนอร์เบอร์ท็อปของโลก ผู้มีแบรนด์ดังต่อคิวเข้าร่วมสร้างสรรค์ผลงาน โดยตัวเขาเองเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาเคยรับงานมากที่สุดพร้อมกันถึง 400 โปรเจกต์ จนลืมคิดเรื่องวันลาพักร้อนไปเลย

“ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องการพักร้อนมานานมากแล้ว จริงๆ การพักร้อนของผมไม่ต้องบินไปไหนไกล แค่ได้เดินออกจากออฟฟิศไปคาเฟ่ประจำ นั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม ในมุมเดิมๆ จิบคาปูชิโน กินช็อกโกแลต หรือไม่ก็ขนมหวาน เท่านี้สมองก็ได้พักร้อน พร้อมที่จะคิดงานใหม่แล้ว”

แน่นอนว่าในฐานะนักออกแบบที่มีคนต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ทำให้ซาโตะคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องการออกแบบแทบจะตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่เชื่อไหมว่า สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถทำให้ทั้ง 400 โปรเจกต์ มีทั้งความมินิมัลในแบบซาโตะ แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับเก้าอี้ไม้ NO1TM ที่ซาโตะสามารถนำความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น และความเป็นธรรมชาติแบบเดนิช ซึ่งเป็นคีย์หลักของแบรนด์ Republic of Fritz Hansen มารวมกันได้อย่างแนบเนียน

เก้าอี้ไม้หมายเลข 1

Republic of Fritz Hansen เป็นที่รู้จักดีในฐานะแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ทำเก้าอี้หนังได้เนี้ยบและประณีตมาก ทว่า ด้วยความที่เป็นแบรนด์จากเดนมาร์ก งานไม้จึงเป็นอีกหัวใจของความเรียบง่ายที่จะลืมไม่ได้ และหลังจากเก้าอี้ไม้ตัวแรกของแบรนด์ที่ออกแบบโดย อาร์เน จาค็อบเซน เมื่อ 61 ปีก่อน Republic of Fritz Hansen ก็ไม่เคยสร้างเก้าอี้ไม้ขึ้นมาอีกเลย กระทั่งได้มาพบกับซาโตะ ความเรียบง่ายในแบบเดนมาร์กและญี่ปุ่นจึงถูกนำมารวมกันผ่านเก้าอี้ไม้ NO1TM  ซึ่งซาโตะได้ให้นิยามความเรียบง่ายที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างญี่ปุ่นและเดนมาร์กไว้ว่า “เมื่อคุณมอง คุณจะรับรู้ได้ว่า นี่คืองานออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น แต่เมื่อคุณสัมผัส คุณจะรู้สึกถึงว่า นี่คืองานฝีมือของ Fritz Hansen”

ธรรมชาติ งานฝีมือ ความเรียบง่าย การเคารพในวัสดุที่ใช้ และความเป็นดั้งเดิม คือสิ่งที่ซาโตะพยายามจะสื่อสารผ่านเก้าอี้ไม้ ซึ่งเขาบอกเลยว่าไม่ง่าย เพราะเก้าอี้หนึ่งตัวต้องมีครบทั้งความสวยงามและฟังก์ชันของการนั่งสบาย ซึ่งแต่ละคนย่อมให้คำนิยามที่ไม่เหมือนกัน โดยสิ่งแรกที่ซาโตะนึกถึงในการทำเก้าอี้ตัวนี้คือ ความแข็งแรงมั่นคง อันเป็นคุณสมบัติของไม้และเก้าอี้ ทว่า ต้องให้น้ำหนักที่เบา ซึ่งที่ผ่านมาเขามองว่าเรื่องน้ำหนักเป็นปัญหาจากการเชื่อมต่อวัสดุเข้าด้วยกัน

ดังนั้นเขาจึงคลี่คลายปัญหานี้ด้วยการนำไม้ทั้งเนื้อแข็งและไม้วีเนียร์ 23 ชิ้น มาสวมประกอบกันในลักษณะคล้ายตัวต่อ โดยใช้การประกอบมือจากครอบครัวช่างไม้ชาวเดนมาร์กที่ทำงานด้านงานไม้มาร่วมร้อยปี

ด้านตัวรองนั่งและพนักพิง เลือกใช้แผ่นไม้วีเนียร์ 9 ชิ้น มาดัดให้มีความโค้งรับกับสรีระ ซึ่งเป็นเทคนิคดั้งเดิมอันโดดเด่นของ Republic of Fritz Hansen ส่วนเฉดสียังคงอิงกับธรรมชาติที่โอ๊กดำ โอ๊กธรรมชาติ และขาว เรียกได้ว่าเก็บรายละเอียดของธรรมชาติ และยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Republic of Fritz Hansen และ โอกิ ซาโตะ ได้อย่างชัดเจน

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล