วันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 00.00 น. อาจเป็นเวลาปกติของใครหลายคน แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว นี่คือ ‘วินาทีประวัติศาสตร์’ ที่เบญจมาศดอกเก่าร่วงโรยตามกาลเวลา สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ก้าวลงจากพระราชอำนาจ สิ้นสุดรัชศกเฮเซที่ 31 อย่างเป็นทางการ พร้อมเข้าสู่ ‘รัชศกเรวะ’ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. (เวลา 22.01 ตามเวลาประเทศไทย)
วินาทีนี้จึงถือเป็นวินาทีสิ้นสุดยุคสมัยเฮเซที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี และจะเริ่มต้นเข้าสู่พระราชพิธีขึ้นครองราชย์ โดยพิธีการที่สำคัญที่สุดคือ การถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (Kenji-tō-Shōkei-no-Gi) อันเป็นเครื่องหมายของพระราชบัลลังก์แด่สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ พร้อมด้วยพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ในการนี้ พระองค์จะมีพระปฐมบรมราชโองการ เริ่มต้นยุคสมัยเรวะอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2019
โดยก่อนหน้านี้ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะประกาศได้สละราชสมบัติอย่างเป็นทางการแล้ว หลังมีพระราชดำรัสครั้งสุดท้ายในฐานะสมเด็จพระจักรพรรดิว่า
“วันนี้ เราจะยุติภาระหน้าที่ในฐานะสมเด็จพระจักรพรรดิ
“ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา เราปฏิบัติหน้าที่ในนามองค์พระจักรพรรดิ โดยได้รับความเชื่อใจและความเคารพจากประชาชน เรารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ เรารู้สึกขอบใจประชาชนชาวญี่ปุ่นที่ยอมรับเราในฐานะสัญลักษณ์ของประเทศและสนับสนุนเรามาโดยตลอด
“เราและสมเด็จพระจักรพรรดินีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผ่นดินยุคสมัยเรวะจะสงบสุขและอุดมสมบูรณ์ เราจึงขอภาวนาให้สวัสดิภาพและความสุขจงเกิดขึ้นกับประเทศของเราและพลเมืองโลกทุกคน”