วันนี้ (17 พฤษภาคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมทบทวนกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานอัยการสูงสุด, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานศาลยุติธรรม, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าร่วมประชุม
สมศักดิ์กล่าวว่า ตามที่กฎกระทรวงฯ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ภายหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม รวมถึงการตีความ และการบังคับใช้กฎหมาย เช่น ผลสำรวจนิด้าโพล มีประชาชนมากกว่าร้อยละ 67 ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย
ทำให้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการประชุมหารือกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขกฎกระทรวงฯ โดยปรับลดยาบ้าให้เหลือ 1 เม็ด เพื่อเป็นหลักให้ผู้ปฏิบัติงาน และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมาย
กระทรวงสาธารณสุขจึงแต่งตั้งคณะทำงานทบทวนกฎกระทรวงฯ โดยได้ประชุมเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เพื่อประเมินผลกระทบ ซึ่งพบว่าเกิดผลกระทบสังคม การบังคับใช้กฎหมาย และการแพทย์ เช่น ผู้ค้าใช้ช่องว่างของกฎหมายในการแบ่งบรรจุจำหน่าย เพื่อหลบหลีกการถูกดำเนินคดีในฐานความผิดมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้า จึงเห็นชอบแก้ไขกฎกระทรวงฯ พร้อมวางกรอบระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สมศักดิ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบทบทวนกฎกระทรวงฯ โดยให้ยกเลิกความใน (ก) และ (จ) ของข้อ 2 (1) แห่งกฎกระทรวงฯ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน (ก) แอมเฟตามีน มีปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม (จ) เมทแอมเฟตามีน มีปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 20 มิลลิกรัม
สำหรับมติที่ประชุมวันนี้จะนำไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งเริ่มวันนี้เป็นวันแรกทันที นอกจากนี้ในการประชุมวันนี้ได้กำหนดเส้นแบ่งการทำคดียาเสพติดเพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการ โดยมีมติปรับลดปริมาณ ยาบ้า ที่สันนิษฐานเป็นผู้เสพเหลือ 1 เม็ด และสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 20 มิลลิกรัม
“ขอเน้นย้ำว่า ยาบ้า 1 เม็ด ก็มีความผิด เพราะต้องพิสูจน์ต่อด้วยว่าเป็นผู้เสพหรือผู้ขาย หากเป็นผู้เสพก็ต้องเข้ารับการบำบัด” สมศักดิ์กล่าว
สมศักดิ์กล่าวต่อว่า ต้องขยายผลตามแนวนโยบาย ‘1 ผู้เสพ ขยายผล 1 ผู้ขาย และขยายต่อเป็น 1 ผู้ผลิต’ ดังนั้นมี ยาบ้า 1 เม็ด ก็ต้องถูกขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์ ซึ่งในขณะนี้เรามีผู้แทนแต่ละกระทรวงที่อยู่ตามชุมชนก็จะช่วยเป็นหูเป็นตา และหากใครแจ้งเบาะแสก่อนก็รับรางวัลนำจับ 5%
สำหรับเหตุผลในการปรับเหลือ 1 เม็ดนั้น สมศักดิ์กล่าวว่า ประชาชนสะท้อนสิ่งที่เสียหายมาเป็นจำนวนมาก พร้อมพิจารณาสถิติการจับกุมที่สูงขึ้น จึงปรับลดเหลือ 1 เม็ด แต่ก็ยังมีความผิด ต้องถูกสอบสวนเพื่อขยายผลให้ได้ผู้ขายและผู้ผลิตต่อไป ซึ่งจากนี้ก็จะรับฟังความคิดเห็น 15 วัน หากเห็นตรงกันก็จะเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ประชาชนไม่เห็นด้วย กฎหมายยาบ้า ‘ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย’ มองการแพร่ระบาดหนักเพราะยาหาซื้อง่าย
- ยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด ยาไอซ์ไม่เกิน 100 มก. ถือเป็นผู้เสพ สธ. ออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ ประกาศใช้แล้ว
- ชมคลิป: ฟังมุมผู้ปราบยาเสพติด เกณฑ์ครองยาบ้า 5 เม็ดคือผู้เสพป้องกันผู้ค้ารายย่อย