เมื่ออุณหภูมิโลกมีแต่จะทวีความร้อนระอุขึ้นทุกปี ไม่เพียงแต่โลกทุกวันนี้จะมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากความร้อนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น แต่ธรรมชาติเองก็ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ลองมองตามท้องถนน หรือพื้นฟุตปาธที่เราย่ำเดินอยู่ทุกๆ วัน จากนั้นลองหันกลับมาถามตัวเองสั้นๆ ว่า ประเทศเรามีขยะมากเกินไปไหม?
แน่นอน ปัญหาขยะล้นเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เช่นกันที่เพราะเราเคยชินกับปัญหานี้มากจนเกินไป เราจึงยังพบเห็นขยะมากมายถูกทิ้งขว้างระเกะระกะอย่างทุกวันนี้ ซ้ำร้ายยิ่งกว่าคือขยะเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาโลกร้อนอีกด้วย
พลาสติกกลายเป็นผู้ร้ายท่ามกลางขยะสารพัดชนิดต่างๆ กลายเป็นตัวร้ายในสายตาของใครหลายๆ คน ทั้งที่หากลองถอยย้อนกลับไปมองประวัติศาสตร์ในช่วง 30-40 ปีก่อนหน้า พลาสติกได้สร้างความสะดวกสบายให้กับชีวิตมนุษย์อย่างมหาศาล ลองจินตนาการเล่นๆ สิว่า ถ้าโลกทุกวันนี้ไม่มีพลาสติก ชีวิตคงจะยุ่งยากกว่านี้ไม่น้อย จริงไหมล่ะ พอยิ่งสะดวกมาก ความต้องการก็ยิ่งสูง เมื่อพลาสติกถูกผลิตมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งมันจึงกลายเป็นเพียงขยะทิ้งง่าย ที่ใครๆ ต่างก็โยนทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ
ถ้าเราลองมองตรงนี้ให้ดี จริงๆ แล้วต้นตอของปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่พลาสติกเสียทีเดียว แต่คือพฤติกรรมการใช้พลาสติกของมนุษย์ต่างหากที่สร้างขยะปริมาณมหาศาลขึ้นมาเองโดยไม่ทันระแวดระวัง
ตัวอย่างง่ายๆ คือ ถุงพลาสติก ที่ไม่ว่าเราจะเดินเข้า-ออกร้านไหน จับจ่ายสินค้าอะไร ไม่ว่าจะชิ้นเล็กหรือใหญ่ เรามักจะได้รับถุงพลาสติกมาด้วยเสมอ ปัญหานี้ไม่ได้มีแต่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะกับอีกหลายร้อยประเทศทั่วโลกเองก็ตระหนักในประเด็นนี้ไม่ต่างกัน โดยบางประเทศก็มีวิธีการรับมือกับปัญหาการใช้ถุงพลาสติกแตกต่างกันออกไป
หันกลับมามองประเทศไทยของเรากันบ้าง ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ในปัจจุบัน เราเริ่มจะเห็นการผลักดันจากทั้งภาครัฐและเอกชนต่อการลดใช้ถุงพลาสติกอย่างเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ นับเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนถึงว่า ไทยเองก็ไม่ได้นิ่งดูดายต่อปัญหาโลกร้อนอีกต่อไป
ท่ามกลางองค์กรต่างๆ ที่ตั้งใจจะลดการใช้ถุงพลาสติกลงอย่างจริงจัง 7-Eleven คือหนึ่งในแบรนด์ที่มุ่งมั่นจัดการกับปัญหานี้มาโดยตลอด ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ โครงการ 7 Go Green ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีแคมเปญต่างๆ ที่ช่วยรณรงค์ให้มีการลดใช้ถุงพลาสติก เช่น โครงการคิดถุ๊ง คิดถุง* กระตุ้นเตือนให้พนักงานร้านและลูกค้าคิดก่อนใช้พลาสติก รณรงค์ให้พนักงานที่ร้านถามลูกค้า “รับถุงพลาสติกไหมครับ/คะ”
หรือใน 7-Eleven สาขาต่างๆ บนเกาะท่องเที่ยว เช่น เกาะลันตา เกาะยาวน้อย-เกาะยาวใหญ่ เกาะหลีเป๊ะ และเกาะเสม็ด ก็มีมาตรการ เช่น งดให้ถุงขนาดเล็กกับลูกค้าทุกคน ยกเว้นที่เป็นสินค้าประเภทของร้อน ยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม หรือ Cap Seal (ทุกสาขาทั่วประเทศ) ยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มหลอด โดยเปลี่ยนเป็นใช้กระดาษแทนพลาสติก
ล่าสุด ในวันที่ 7 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา 7-Eleven ก็ได้ประกาศเจตนารมณ์ลดและเลิกใช้ถุงพลาสติกอย่างจริงจัง ภายใต้แนวคิดที่ว่า ใน 1 วัน 7-Eleven มีลูกค้าถึง 13 ล้านคน ถ้าทุกคนช่วยกันไม่รับถุงพลาสติกแค่คนละ 1 ถุง นั่นจะช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกต่อวันลงได้อย่างมหาศาล เพราะถ้า 1 วันลดการใช้ถุงพลาสติกลงได้ 13 ล้านใบ นั่นเท่ากับว่าใน 1 ปี เราจะลดการใช้ถุงพลาสติกลงได้ถึง 4,745 ล้านใบเลยทีเดียว
“เราขอใช้วันที่ 7 เดือน 11 ประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะลดและเลิกการใช้ถุงพลาสติกที่ร้าน 7-Eleven และขอเชิญชวนคนไทยร่วมกันลดและเลิกใช้ถุงพลาสติกร่วมกัน แค่วันละถุงก็จะช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้แล้ว
“ที่ผ่านมาบริษัทก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการที่ร้าน 7-Eleven เป็นอย่างดี ทุกคนต่างก็ตระหนักถึงผลกระทบของขยะถุงพลาสติกที่มีต่อโลกของเรา ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ไม่รับถุงพลาสติกกับโครงการปฏิเสธถุงได้แต้ม โดยร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศจะให้แต้ม 10 แต้มกับลูกค้าที่ชำระเงินผ่านบัตร 7 Value Card และปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติกด้วย” ธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้าน 7-Eleven ในประเทศไทย กล่าว
เพราะสภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราทุกคนล้วนต้องร่วมด้วยช่วยกัน แค่ต่างคนต่างงดใช้ถุงพลาสติกลงให้เหลือแค่เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ง่ายๆ แค่นี้นับว่าได้ช่วยให้ปริมาณขยะพลาสติกลดน้อยลงได้อย่างมหาศาลแล้ว
*คำว่า คิดถุ๊ง คิดถุง เป็นชื่อเฉพาะของโครงการ