วันนี้ (29 มิถุนายน) คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการรับมอบวัคซีน AstraZeneca จากรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการส่งมอบในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามแลกเปลี่ยนวัคซีนกับรัฐบาลญี่ปุ่น จำนวน 1,050,000 โดส
สำหรับสาระสำคัญของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระบุให้รัฐบาลไทยจะต้องดำเนินมาตรการที่จำเป็น ดังนี้
- นำวัคซีนโควิด-19 ไปใช้อย่างเหมาะสมและเป็นการเฉพาะ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านสาธารณสุขและการแพทย์ของไทย โดยห้ามใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านการทหาร
- รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ยกเว้นรัฐบาลของทั้งสองประเทศจะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ ซึ่งครั้งนี้ ไทยจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งจากญี่ปุ่น ประมาณ 10-99 ล้านเยน หรือ 2.9-28.7 ล้านบาท โดยกระทรวงสาธารณสุข มีงบประมาณรองรับส่วนนี้ไว้แล้ว
- เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 เมื่อได้รับการร้องขอ
- ไม่ส่งต่อวัคซีนโควิด-19 ให้แก่บุคคล หน่วยงานรัฐบาลอื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นการล่วงหน้า
- รายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการ ข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนจะจัดทำโดยหน่วยงานผู้มีอำนาจของรัฐบาลญี่ปุ่น คือ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ และหน่วยงานผู้มีอำนาจของรัฐบาลไทย คือ กระทรวงสาธารณสุข
ที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณในไมตรีจิตและความห่วงใยของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันดีงามมาเป็นเวลานาน และการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ครั้งนี้ เป็นไปตามการส่งเสริมแนวคิด Free and Open Indo-Pacific ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และไทย
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น