‘Real VAR’ เมื่อราชันชุดขาวถูกตั้งคำถามถึงการตัดสินที่เป็นใจไปเสียทุกอย่าง

หลังการรอคอยที่ยาวนานถึง 14 สัปดาห์ ฟุตบอลลาลีกาเป็นหนึ่งในลีกลูกหนังที่ได้กลับมาเดินหน้าแข่งขันต่อ แต่ดูเหมือนบรรยากาศในการกลับมาจะไม่ค่อยเป็นบรรยากาศแห่งความสุขแบบที่ควรจะเป็นมากนัก

เหตุผลเพราะเกิดประเด็นที่สังคมลูกหนังตั้งคำถาม โดยเฉพาะฟากฝ่ายที่ถือหางข้างบาร์เซโลนา เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน หลังการกลับมารีสตาร์ทอีกครั้งว่า ดูเหมือนนอกจากฟ้าจะมีตาแล้ว VAR ยังดูจะเป็นใจให้กับคู่แข่งของพวกเขาอย่างทีม ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ไปเสียหมด

ตัดประเด็นเรื่องฟอร์มการเล่นของบาร์ซาที่ไม่ได้ดีเด่นอะไรออกไปก่อน แต่เหตุการณ์ที่สนามอาโนเอตาของเรอัล โซเซียดัด ซึ่งเรอัล มาดริดบุกไปเฉือนเอาชนะได้ 2-1 นั้นมีเหตุการณ์ที่ เคราร์ด ปิเก้ ตั้งคำถามถึง 3 ครั้ง

จุดโทษของ วินิเชียส จูเนียร์, ประตูของ อัดนาน ยานาไซ ที่ถูกปฏิเสธ และปิดท้ายด้วยประตูของ คาริม เบนเซมา ที่ก้ำกึ่งระหว่างการพักบอลด้วยไหล่หรือแขน

งานนี้ทำเอาสื่อฝั่งคาตาลันถึงกับส่ายหัว โดย Mundo Deportivo พาดหัวข่าวว่า ‘Made in Madrid’ ขณะที่ Sport พาดหัวว่า ‘VAR Leaders’

ขณะที่ทางด้าน La Vanduardia ระบุว่า นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่คู่แข่งของเรอัล มาดริดถูกปฏิเสธการได้ประตู ขณะที่ประตูของเบนเซมาที่ได้นั้น ก็เป็นคนละมาตรฐานกับที่ ลิโอเนล เมสซี เคยได้รับการปฏิบัติ เมื่อสตาร์อาร์เจนไตน์ถูกปฏิเสธการให้ประตูในแบบเดียวกับในเกมสแปนิชซูเปอร์คัพกับแอตเลติโก มาดริด

โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้ตัดสินที่ให้ประตูกับเบนเซมาในเกมบุกชนะลา เรอัล กับผู้ตัดสินที่ไม่ให้ประตูเมสซีนั้นคือคนเดียวกัน

มาร์ติเนซ มูนูเอรา!

ด้วยเหตุนี้ทำให้ปิเก้ยอมรับถึงโอกาสในการป้องกันแชมป์ของทีมอาซูลกรานาว่า “จากที่ได้เห็นมา 2 สัปดาห์ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากแล้วที่เราจะคว้าแชมป์ลีก” ซึ่งในความหมายของปราการหลังจอมเก๋า นอกจากจะชมเชยเรื่องฟอร์มการเล่นของเรอัล มาดริดแล้ว

อีกด้านก็มีการตีความว่า แฟนหนุ่มของชากีรา นักร้องสาวสวยชาวโคลอมเบีย ก็แอบพูดให้คิดถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่ชวนให้เลิกคิ้วขึ้นด้วยเช่นกัน

โดย Sport ได้รวบรวม 5 เหตุการณ์ที่ VAR ทำหน้าที่ประหนึ่ง Video Assist Real Madrid ดังนี้

เคราร์ด ปิเก้ พูดถึงเรื่องเรอัล มาดริดว่า ยากที่จะทำแต้มหล่น ซึ่งมีคนตีความว่า อาจหมายถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินด้วย

เบนเซมาล้ำหน้า?

ในเกมแรกของการกลับมา เรอัล มาดริดได้ประตูขึ้นนำเอบาร์ จากการยิงของ โทนี โครส ซึ่งลูกนี้ไม่ควรจะได้ประตู เนื่องจาก คาริม เบนเซมา ล้ำหน้าในจังหวะที่เซตเกม ขณะที่บาร์ซาซึ่งได้ประตูในลักษณะที่คล้ายกันในเกมกับเลกาเนส กลับถูกปฏิเสธที่จะให้ประตู

ประตูที่ไม่เป็นประตูของโรดริโก

ในเกมระหว่างเรอัล มาดริดและบาเลนเซีย โรดริโกส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายราชันชุดขาวได้ แต่ถูก VAR ปฏิเสธการให้ประตู เพราะ มักซี โกเมซ ล้ำหน้าอยู่ ทั้งๆ ที่อดีตดาวยิง เซลตา บีโก ไม่ได้บล็อกหรือขวาง ราฟาเอล วาราน ซึ่งเป็นคนสัมผัสบอลก่อนที่จะไปถึงโรดริโกที่ยิงเข้าไป

จุดโทษของวินิเชียส

ในเกมกับเรอัล โซเซียดัด วินิเชียส เรียกจุดโทษให้เรอัล มาดริดได้ แม้ว่าจะดูไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ VAR ก็ยืนกรานคำตัดสิน และเป็น เซร์คิโอ รามอส ที่ยิงประตูเข้าไป

ลูกยิงของยานาไซที่อดได้ประตู

หลังรามอสยิงประตูได้ไม่นาน ลา เรอัลตีเสมอได้จาก ยานาไซ ที่ซัดจากนอกกรอบเขตโทษเข้าไป แต่ลูกนี้ VAR กลับยกประโยชน์ให้เรอัล มาดริด โดยระบุว่า มิเกล เมริโน ล้ำหน้า ซึ่งจังหวะนี้เมริโอยืนอยู่หน้า ติโบต์ กูร์ตัวส์ 5 เมตร และประตูชุดขาวก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรว่าถูกบังด้วย แต่ผู้ตัดสินระบุว่า เมริโนมีส่วนในการบังการมองเห็นของประตูเบลเยียม

แฮนด์บอลของเบนเซมา

ความดราม่าเกิดขึ้นต่อเนื่องหลังจากลูกยิงของยานาไซ เมื่อเบนเซมามาทำประตู 2-0 ได้จากการกระโดดพักบอลที่ดูยากว่าจะเป็นไหล่หรือแขน แต่ VAR ตัดสินให้เป็นประตู

อย่างไรก็ดี อิตูร์ราลเด อดีตผู้ตัดสินได้วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวะสำคัญที่ VAR เข้าทางเรอัล มาดริดไปหมดในเกมกับเรอัล โซเซียดัด ผ่าน as (ที่เป็นสื่อสายมาดริด) โดยยืนยันว่า จังหวะได้จุดโทษของวินิเชียส และลูกพักด้วยไหล่ของเบนเซมา ผู้ตัดสินน่าจะทำหน้าที่ได้ถูกต้องแล้ว

จะมีพลาดก็ลูกยิงของยานาไซ ที่น่าจะได้ประตู เพราะเมริโนไม่น่าจะมีส่วนบังกูร์ตัวส์

เพียงแต่ก็ไม่น่าจะช่วยให้ชาวทฤษฎีสมคบคิดสบายใจขึ้นมากมายนัก เพราะแฟนบอลจะเชื่อในสิ่งที่ตนเชื่อเท่านั้น

สิ่งสำคัญกว่าคือ ถึงแฟนบอลจะกลับมาสนามไม่ได้ แต่บรรยากาศของการแข่งขัน การโต้เถียง ความดราม่าต่างๆ ได้กลับมาแล้ว และการเบียดแย่งแชมป์จะบี้กันไปอีกยาวนาน เพราะลาลีกายังเหลือเกมอีกถึง 8 นัดด้วยกัน

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: