รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งระบุตรงกันว่า อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ปราการหลังทีมชาติเยอรมนีเตรียมโบกมือลาเชลซีเพื่อย้ายไปร่วมทีมเรอัล มาดริดในฤดูกาลหน้าในสัญญาอย่างงามระยะเวลา 4 ปีด้วยกัน
ตามรายงานระบุว่ารูดิเกอร์ได้มีการเจรจากับว่าที่แชมป์ลาลีกาฤดูกาลนี้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และการพูดคุยนั้นเป็นไปด้วยดี ซึ่งคาดว่ากองหลังวัย 29 ปีน่าจะได้รับค่าเหนื่อยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ ซึ่งมากกว่าที่เชลซีให้อยู่ในปัจจุบันที่ 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
สำหรับ คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่เรอัล มาดริดชาวอิตาลีแล้ว รูดิเกอร์คือคนที่จะเข้ามาเพื่อเป็น ‘เสาหลัก’ ให้ทีมในอนาคต โดยแม้ว่าจะอายุใกล้สามสิบ แต่สภาพร่างกายและฟอร์มการเล่นแล้ว ดาวเตะรายนี้ยังน่าจะยืนระยะได้ยาวอีกหลายปี ไม่ต่างอะไรจาก ลูกา โมดริช และ คาริม เบนเซมา ที่ยังโลดแล่นได้ในระดับสูงสุด
แต่สำหรับ โธมัส ทูเคิล แล้ว นี่คือความสูญเสียที่เขาและเชลซีต้องเผชิญทั้งที่มีโอกาสจะหลีกเลี่ยงมันได้
ตามถ้อยคำของทูเคิลกองหลังที่ถูกซื้อตัวมาจากโรมาในปี 2017 ด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์คือนักเตะที่ขาดไม่ได้สำหรับทีม ซึ่งสิ่งที่กุนซือชาวเยอรมันพูดนั้นไม่ผิดไปจากความจริง เพราะนับตั้งแต่ที่อดีตนายใหญ่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เข้ามารับงานในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ นักเตะคนที่กลายเป็นเสาหลักของทีมตั้งแต่นั้นคือรูดิเกอร์
ปราการหลังจอมแกร่งก้าวจากนักเตะที่ไม่มีความมั่นคง และมีข่าวว่าอาจจะถูกขายทิ้งกลายเป็นเสาหลักในระบบกองหลัง 3 คนที่ทูเคิลนำมาใช้กับเชลซี จนทำให้ทีมกลับมามีเกมรับที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ และเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีมพิชิตแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รวมถึงแชมป์สโมสรโลกได้
ความแข็งแกร่ง ความเร็วที่เหลือเชื่อที่สามารถจับกองหน้าสปีดจัดได้แทบทุกคน การอ่านเกม ความดุดัน และการเติมขึ้นไปช่วยเกมรุก คือคุณค่าที่รูดิเกอร์มีต่อเชลซีชุดปัจจุบัน
ปัญหาสำหรับเชลซีอยู่ที่เรื่องของการเจรจาต่อสัญญาในช่วงก่อนหน้านี้ที่ติดขัดอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในความต้องการที่แตกต่างกันระหว่างสโมสรและนักเตะ ซึ่งมีรายงานว่านักเตะต้องการค่าเซ็นสัญญามหาศาล และเงินส่วนแบ่งอย่างงามให้กับเอเจนต์ เรื่องนั้นจบลงในเบื้องต้นกับการที่รูดิเกอร์บอกปัดข้อเสนอ
เพียงแต่ทูเคิลยืนยันว่าสโมสรได้พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะรั้งตัวรูดิเกอร์ให้อยู่กับทีมต่อไปให้ได้ แต่สิ่งที่กลายเป็นอุปสรรคคือการที่เชลซีถูกแทรกแซงจากรัฐบาลอังกฤษที่อายัดทรัพย์ของ โรมัน อบราโมวิช ที่อยู่ในสหราชอาณาจักรทุกรายการรวมถึงสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ด้วย และบังคับให้มีการขายสโมสรออกไปเพื่อเป็นการโต้ตอบต่อการที่กองทัพรัสเซีย ซึ่งมหาเศรษฐีวัย 55 ปีถูกกล่าวหาว่าเป็นคนใกล้ชิดของ วลาดิเมียร์ ปูติน และสนับสนุนรัฐบาลเครมลิน
กระบวนการดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม และจนถึงปัจจุบันเชลซียังไม่มีเจ้าของสโมสรใหม่แต่อย่างใด ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี่เองที่ทำให้ทูเคิลถูกตัดโอกาสที่จะเกลี้ยกล่อมให้นักเตะฝากอนาคตกับสโมสรไว้เหมือนเดิม และรูดิเกอร์ก็ไม่ต้องการที่จะรอข้อเสนอจากสโมสรอีกต่อไปเช่นกัน
“เราพยายามสู้อย่างหนักแล้ว ผมพยายามสู้ในระดับส่วนตัวด้วย เรายื่นข้อเสนอครั้งใหญ่ให้กับเขา และสโมสรก็พยายามทำทุกอย่างแล้วแต่เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่เราไม่สามารถจะต่อสู้ได้เพราะเราถูกแทรกแซง เราไม่สามารถทำอะไรได้ เราเดินหน้าต่อไม่ได้ และผลมันก็ออกมาเป็นแบบนี้”
ในขณะที่มีหลายสโมสรให้ความสนใจในตัวเขาไม่ว่าจะเป็น บาเยิร์น มิวนิก, บาร์เซโลนา, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ยูเวนตุส และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทางด้านรูดิเกอร์ตัดสินใจที่จะเลือกเรอัล มาดริดซึ่งมีโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นในการสร้างทีมชุดใหม่ โดยเฉพาะมีโอกาสได้ คีลิยัน เอ็มบัปเป มาร่วมทีมในช่วงปิดฤดูกาลนี้
การสูญเสียรูดิเกอร์ของเชลซีถือเป็นความเสียหายที่ร้ายแรง เพราะนักเตะที่มีฝีเท้าระดับนี้ในตลาดมีไม่มากนัก และการจะหาใครทดแทนนั้นอาจหมายถึงการต้องทุ่มเงินมหาศาล ทั้งๆ ที่อย่างน้อยสโมสรมีโอกาสที่จะรั้งตัวเอาไว้ก็ตาม ไม่นับที่จะต้องเสีย อันเดรียส คริสเตนเซน ที่หมดสัญญาและเตรียมย้ายไปบาร์เซโลนาในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้อีกราย
รายงานข่าวจาก The Guardian ระบุว่าเชลซีอาจจะดึง ฌูลส์ กุนเด กองหลังดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสซึ่งเป็นเป้าหมายมานาน รวมถึงให้ความสนใจในตัว เวสลีย์ โฟฟานา ปราการหลังอนาคตไกลของเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีคุณลักษณะคล้ายกับรูดิเกอร์ คือเป็นกองหลังที่รูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง มีความเร็ว และทางบอลดี
แต่สิ่งที่หาทดแทนได้ยากคือการเป็นเสาหลัก ประสบการณ์ และความเป็นผู้นำของรูดิเกอร์ นักเตะที่เชลซีทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยมือแล้วให้เดินจากไปหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้
อ้างอิง: