×

สาวนักธุรกิจอสังหาฯ ร้องเรียน ถูกซี 9 ดีเอสไอข่มขืน พร้อมขู่เผยคลิปลับ ผ่านไป 1 ปี เพิ่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

โดย THE STANDARD TEAM
16.02.2018
  • LOADING...

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี พา น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 38 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหลานสาว พร้อมทนายความเดินทางเข้าขอความเป็นธรรมต่อกองปราบปราม โดยกล่าวหาว่าถูก พ.ต.ต. รายหนึ่งซึ่งเป็นข้าราชการระดับซี 9 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมทั้งข่มขู่จะนำภาพลับไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย

        

นายเอเปิดเผยว่า เมื่อปี 2559 พ.ต.ต. คนดังกล่าวได้แอดขอเป็นเพื่อนกับหลานสาวทางเฟซบุ๊ก หลานสาวจึงรับเป็นเพื่อนเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกับญาติคนหนึ่ง

 

ต่อมาเขาพยายามตีสนิทกับหลานสาว และขอเดินทางร่วมทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งใน จังหวัดระยอง กับกลุ่มเพื่อนประมาณ 10 กว่าคน

 

เมื่อถึงวันดังกล่าว ปรากฏว่า พ.ต.ต. คนดังกล่าว ได้ขับรถยนต์มาถึงที่นัดหมายตั้งแต่ 10 โมงเช้า พร้อมทั้งนำพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 ภาพใหญ่มาให้เป็นของขวัญ จากนั้นก็ออกอุบายจะนำพระบรมฉายาลักษณ์ไปเก็บที่คอนโดฯ ของหลานสาว ซึ่งอยู่ในละแวกดังกล่าว

 

แต่เมื่อขึ้นไปถึงคอนโด พ.ต.ต. คนดังกล่าวกลับใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน โดยขู่ว่ามีปืนอยู่ด้วย ระหว่างข่มขืนก็ได้ถ่ายคลิปไว้ หลังจากถูกข่มขืนหลานสาวก็ป่วยเป็นเวลา 3 วัน เพราะร่างกายและจิตใจบอบช้ำ ต่อมา พ.ต.ต. คนดังกล่าวได้โทรศัพท์มาข่มขู่เรียกเงินและขอมีเพศสัมพันธ์อีก หากไม่ยอมจะนำคลิปไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียและส่งให้ญาติๆ หลานสาวดู นอกจากนี้ทราบมาว่า พ.ต.ต. คนดังกล่าว ยังให้ภรรยาของตัวเองฟ้องร้องหลานสาวว่าเป็นชู้กับสามี โดยเรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท

 

นายเอ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเรื่องหลานสาวตนเครียดมากจึงหนีไปต่างประเทศ แต่ก็ยังถูกแฮกเบอร์โทรศัพท์ เฟซบุ๊ก อีเมล และส่งข้อความมาเยาะเย้ยอยู่ตลอดเวลา กระทั่งหลานสาวทนไม่ไหว จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับดีเอสไอ ต้นสังกัด จนมีการตั้งกรรมการสอบสวนกันเอง ต่อมาเรื่องก็เงียบหายไป มาทราบภายหลังว่าคณะกรรมการของดีเอสไอสรุปผลสอบว่าเป็นความผิดเล็กน้อย มีบทลงโทษแค่ตัดเงินเดือน เดือนละ 1 พันกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งตนเห็นว่าคำตัดสินดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับหลานสาว จึงให้ทนายฟ้องศาลจังหวัดพัทยากับ พ.ต.ต. คนดังกล่าว ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของศาล และจึงมาเข้าร้องเรียนตำรวจกองปราบปรามเพื่อขอความเป็นธรรม

 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

 

ด้านกรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงว่า สาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายดังกล่าวได้เคยเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 แต่เนื่องจากผู้ถูกร้องเรียนเป็นข้าราชการระดับ 9 (เชี่ยวชาญ) ดังนั้นการพิจารณาดำเนินการทางวินัยจึงอยู่ในอำนาจของปลัดกระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้รายงานไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อโปรดพิจารณา โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อเดือนเมษายน 2560

 

ล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 กระทรวงยุติธรรมได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการรายดังกล่าวแล้ว โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการ ส่วนที่ผู้เสียหายได้ไปใช้สิทธิฟ้องคดีอาญาเองที่ศาลจังหวัดพัทยา และขอความเป็นธรรมต่อกองบังคับการปราบปราม ก็เป็นส่วนของคดีอาญาที่สามารถทำได้ อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งการสอบสวนในส่วนของความผิดทางวินัยเรื่องนี้ก็ต้องนำผลของคดีอาญามาประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งต้องทำความจริงให้ปรากฏและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เมื่อมีความคืบหน้าของผลการสอบสวนทางวินัยเป็นประการใดแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้แจ้งผลให้สาธารณชนทราบต่อไป

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising