ทุกวันนี้เหมือนว่าเรื่อง ‘การใส่ใจดูแลสุขภาพ’ จะยังคงเป็นเทรนด์ฮิตที่มาแล้วไม่เคยจางหายไปไหน เอานิ้วไถหน้าฟีดอินสตาแกรมก็ยังพบเห็นกิจกรรมเพื่อสุขภาพมากมายจากผู้คนรอบตัว ทั้งคอร์สเบาๆ อย่างโยคะ หรือการเล่นกีฬา หรือคอร์สหนักๆ อย่างการเข้ายิม ปีนเขา หรือวิ่งมาราธอน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะฮึด ลุกขึ้นมายินยอมให้ร่างกายทำกิจกรรมเหล่านั้น
ส่วนบุคคลที่ไม่อยากเหนื่อยหอบกับการออกกำลัง ก็คงมีหนทางอื่นในการดูแลรักษาสุขภาพตัวเองตามชอบ อาจจะเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเลือกผ่อนอารมณ์ที่คุกรุ่นภายในให้สงบเพื่อปรับสมดุลสุขภาพกายอันแสนล้า และครั้งนี้ที่เรามีโอกาสเดินทางมาเยียวยาสุขภาพจิตใจ พักผ่อนและระเริงร่างกับสปาใน ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ต เชียงใหม่ เราก็ค้นพบว่าการเอนหลังนอนเอื่อยเฉื่อยให้เทอราปิสต์บรรจงนวดกายคือหนทางหนึ่งของการมีสุขภาพที่ดีในแบบฉบับของคนรักสบายอย่างแท้จริง
The Vibe
ขับรถเรื่อยเปื่อยจากสนามบินเชียงใหม่มาเพียง 15 นาที ลัดเลาะผ่านถนนท่าแพ ข้ามสะพานนวรัฐแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบแม่น้ำไป หากใครคุ้นเคยกับชื่อ ‘กู๊ดวิว’ ร้านอาหารและบาร์ที่เลื่องชื่อไปทั่วคุ้งน้ำปิง ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ต จะรอทักทายคุณทางขวามือตรงกันข้ามกับกู๊ดวิวพอดีเป๊ะ!
บรรยากาศโดยทั่วไปของ ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ต แห่งนี้ค่อนข้างมีความเป็นไทยแบบร่วมสมัย (Contemporary Thai) อยู่ค่อนข้างสูง กล่าวคือสถาปัตยกรรมที่เคร่งขรึมด้วยวัสดุอย่างไม้เป็นส่วนใหญ่ ทั้งภายในห้องพักเองหรือตามมุมนั่งหย่อนใจ แทรกบรรยากาศแบบรีสอร์ตเข้าไปด้วยพรรณไม้นานา มีธารน้ำไหลระรินเชื่อมทุกส่วนของรีสอร์ตให้เป็นหนึ่งเดียว และหลังจากที่ทางรีสอร์ตได้ทำการรีโนเวตหลายๆ พื้นที่ให้ร่วมสมัยมากขึ้นก็ยิ่งน่าสนใจ อย่างการแทรกความเป็นไทยที่ไม่เลี่ยนเข้าไปด้วยของตกแต่งตามมุมต่างๆ เช่น หมอนขิดสีสวย พานพุ่มจำลอง ภาพถ่ายที่สื่อสารความเป็นไทยในหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงตุ่มน้ำใหญ่ที่มีไม้บัวเชิดดอกสวยอยู่ทุกมุม
หนึ่งความน่าสนใจที่สุดของระรินจินดาแห่งนี้คงหนีไม่พ้นเรือนไม้สักอายุ 140 ปีที่ตั้งตระหง่านต้อนรับผู้เข้าพักอยู่บริเวณด้านหน้ารีสอร์ต ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าที่น่าเดินเข้าไปเยี่ยมชมสักครั้ง ด้วยเรือนไม้หลังนี้เป็นรูปแบบศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะพม่า ล้านนา และโคโลเนียลไว้อย่างน่าดูชม
ชิ้นส่วนของไม้แกะสลักและระแนงไม้ดั้งเดิมที่ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี
ด้วยรายละเอียดของแปลนที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง รวมถึงการดัดแปลงพื้นที่แต่ ‘คงไว้’ ซึ่งรายละเอียดเดิมเกือบทั้งหมด ทั้งระแนงไม้ หน้าต่าง ตั่งสำหรับนั่ง โคมไฟ หรือแม้กระทั่งสวิตช์เปิดปิดไฟก็ตาม การใส่ใจและเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมดั้งเดิมนี่แหละที่ทำให้รีสอร์ตแห่งนี้ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทอาคารพาณิชย์ จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2550 มาครอง
The Room
ห้องพักที่นี่เขามีให้คุณเลือกสรรหลายรูปแบบตอบรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้ทั้งหมด คุณจะมาทำสปาอย่างเดียวโดยไม่เข้าพักก็ได้ หรือจะใช้บริการสปาด้วยก็ได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่ตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนอย่างสีเหลืองรงทอง สีส้มน้ำหมาก ให้ความรู้สึกอุ่นๆ เรียบเท่ในตัว และในบรรดาห้องพักทั้ง 35 ห้องก็มีตั้งแต่ห้องเรียบๆ อย่างห้องดีลักซ์ (Deluxe Room) หรือถ้าอยากจะเปิดประตูกระโจนลงสระว่ายน้ำทันทีก็เลือก ห้องดีลักซ์ พูล แอ็กเซส (Deluxe Pool Access)
ส่วนห้องที่เราปลาบปลื้มมากที่สุดนั้นคือห้องระรินจินดา วิลล่า (RarinJinda Villa) หรือในอีกชื่อที่เรียกกันคือห้อง Princess Suite ซึ่งนั่นก็เพราะสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยมาประทับพักผ่อนที่วิลล่านี้อยู่บ่อยครั้งนั่นเอง ความพิเศษของวิลล่าบนดาดฟ้านี้ก็คืออ่างจากุซซีทางด้านนอก ที่พร้อมให้คุณได้อิ่มใจไปกับวิวของดอยสุเทพในมุมมองที่เต็มตาที่สุด
จากุซซีแบบเอาต์ดอร์ของระรินจินดา วิลล่าคือมุมที่สวยที่สุดมุมหนึ่งของรีสอร์ตแห่งนี้
ส่วนทางด้านของสปาเองก็ใช้วิธีการตกแต่งในรูปแบบเดียวกัน กล่าวคือเน้นใช้สีเอิร์ธโทนไปถึงโทนร้อน เพื่อเติมพลังงานและความกระชุ่มกระชวยให้ได้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแก่แขกผู้เข้ามาใช้บริการนั่นเอง
The Bites
หากท้องร้องโครกคราก คุณเพียงเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามของรีสอร์ตที่ติดกับแม่น้ำปิง คือที่ตั้งของห้องอาหาร Deck 1 (เดควัน) ซึ่งเป็นห้องอาหารเพียงหนึ่งเดียวของรีสอร์ตแห่งนี้ ซึ่งเปิดให้บริการตลอดวัน โดยเมนูอาหารของที่นี่จะเน้นความร่วมสมัยผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างเรียบง่าย ที่เราถูกปากที่สุดคงจะเป็น ‘สปาเกตตีไส้อั่ว’ รสชาติความมันจากครีมในสปาเกตตี ตัดเลี่ยนด้วยรสเผ็ดเข้มของไส้อั่วได้เป็นอย่างดี เพราะปกติถ้าหากได้ยินชื่อสปาเกตตีไส้อั่ว ก็คงจะต้องคิดถึงรสชาติของพริกแห้งและกระเทียมไว้ก่อน แต่จานนี้มีความครีมมี่ละมุนลิ้นเข้ามาแทน ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เชียวล่ะ ส่วนในมื้ออาหารเช้า เราไม่อยากให้คุณพลาด ‘หมูปิ้ง’ ของทางรีสอร์ต กินคู่กับน้ำพริกหนุ่มหรือน้ำพริกอ่องพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ เป็นการเริ่มต้นวันที่แสนดี ใช่ หมูปิ้งธรรมดาๆ นี่แหละ
What to Do
มาถึงรีสอร์ตที่ขึ้นชื่อเรื่องสปาทั้งที คุณจะไม่ลองได้อย่างไรล่ะ ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ต เขามีโปรแกรมสปาให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะนวดแผนไทย นวดแผนตะวันตก หรือการทำสปาที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสาน
สระไฮโดรเทอราปี (Hydrotherapy Pool)
หน้าตาเว้าแหว่งด้วยจุดนวดด้วยแรงดันน้ำ
คุณอาจจะต้องวอร์มร่างกายด้วย ‘วารีบำบัด’ ในสระไฮโดรเทอราปี (Hydrotherapy Pool) ก่อนเข้าสู่กระบวนการอื่นๆ (ไม่ได้บังคับ) สระที่ว่านี้เป็นเทคโนโลยีที่รีสอร์ตนำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส สระว่ายน้ำหน้าตาประหลาดเว้าๆ แหว่งๆ ที่แบ่งโซนออกเป็นทั้งหมด 7 จุด โดยคุณจะต้องแช่ตัวลงไปให้สระนวดตัวคุณด้วยน้ำ จุดละราว 5-7 นาที ซึ่งแต่ละจุดนั้นจะมีลักษณะการปล่อยของน้ำภายในสระไม่เหมือนกัน บางจุดจะดันน้ำออกมาทางเท้าคุณ บางจุดจะดันน้ำออกมาทางด้านหลังคุณ เสมือนการนวดแต่ละจุด ซึ่งจุดที่เราชื่นชอบที่สุดคือจุดของฝักบัวขนาดยักษ์ ที่จะพุ่งแรงดันน้ำออกมาปะทะช่วงไหล่ของคุณอย่างหนักหน่วง ประหนึ่งมีหมอนวดมือหนักมานวดพร้อมๆ กันหลายๆ คน
รูปแบบของการทำสปาที่นี่มีหลายรูปแบบที่เราไม่เคยสัมผัสแต่พบว่าน่าสนใจ อย่างเช่น ‘Elements of Life’ การประยุกต์การนวดแผนไทยและแผนตะวันตกเข้าด้วยกัน โดยคุณจะต้องแผ่ร่างลงบนเตียงทรายอุ่น พร้อมทั้งฟังเสียงการเคาะขันแผ่วเบาเพื่อสร้างบรรยากาศและสมาธิ หรืออย่าง ‘Ayurvedic Hide Away’ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากการนวดแบบอินเดียโบราณ ซึ่งคุณจะต้องนอนรับน้ำมันอุ่นๆ ที่จะหยดลงมาบนหน้าผากตลอดการทรีตเมนต์ โดยจะเป็นน้ำมันที่คัดเลือกให้เหมาะกับธาตุของร่างกายแต่ละคนโดยเฉพาะ
หรือถ้าอยากผ่อนคลายชิลล์ๆ แบบมีเวลาไม่มาก คุณก็เพียงลงไปแช่ในบ่อออนเซนกลางแจ้งที่เขามีให้บริการ 3 บ่อ 3 ระดับอุณหภูมิ แค่นี้ก็สบายตัวสบายใจพอสมควรทีเดียว
https://www.instagram.com/p/Bg3hd-9HPEY/
Our Favourites
- ในช่วงก่อนจะเข้ารับบริการสปา พนักงานจะนำสครับสีและกลิ่นต่างๆ มาให้คุณเลือก เราอยากแนะนำ ‘สครับผัก’ สีเขียวสวย เพราะมันจะให้ความรู้สึกกระชุ่มกระชวยอย่างบอกไม่ถูก และถ้าคุณอยากสปาแบบส่วนตัวกับคนรักหรือครอบครัว รีสอร์ตเขามีบริการห้อง Spa Villa ด้วย เผื่อจะนวดพร้อมๆ กันหลายๆ คน
- ด้วยโลเคชันที่ยอดเยี่ยมของรีสอร์ต คุณจะเดินชิลล์ๆ ข้ามสะพานนวรัฐไปเดินช้อปปิ้งที่กาดหลวงวโรรสได้ภายใน 5 นาทีเท่านั้น หรือถ้าอยากจะซดกาแฟสักแก้ว เดินไปราว 7-8 นาทีคุณก็จะถึงร้าน ‘ขจี’ อันเลื่องชื่อเรื่องความหอมและรสชาติของกาแฟ
- หรือถ้าคุณเป็นสายไนต์เอาต์ ก็เพียงข้ามถนนไปลิ้มรสเครื่องดื่มและดนตรีสดที่ ‘โคตรดี’ ของร้านกู๊ดวิวก็ย่อมได้ วันที่เราไปนั่งชิลล์ก็พบว่า วงดนตรีกำลังจัดเมดเลย์ฮิตของ เลดี้ กาก้า มาชุดใหญ่
Rarinjinda Wellness Spa Resort
Address: 14 ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50000
Budget: เริ่มต้นที่ 4,817 บาทต่อคืน
Contact: 0 5330 3030
Website: www.rarinjinda.com/resort
Map:
Photo: Courtesy of Rarinjinda Wellness Spa Resort และอรัณย์ หนองพล