โปรเจกต์ ‘Hiphop House’ เริ่มมาจากที่ทาง G Village เคยได้ให้การซัพพอร์ตพวกเราในการจัดแข่ง Rap Battle ของ Rap is Now ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ผมกับเฟ่ย (พิสิณี ขาวสมัย อดีตมือตัดต่อสาวแห่ง Rap is Now และผู้กำกับมิวสิกวิดีโอสายฮิปฮอปที่ล่าสุดข้ามสายไปกำกับมิวสิกวิดีโอให้ BNK48) เลยคิดว่าจะทำมิวสิกวิดีโอ Tie-in แบรนด์ให้เพื่อเป็นการขอบคุณ
ซึ่งในวันที่เราจะไปเล่าพล็อต ก็มีเตรียมมู้ดบอร์ด-ไอเดียไปเล่าอย่างดี แก๊ป-คณีณัฐ เรืองรุจิระ Co-Founder แห่งหมู่บ้านนักคิด G Village Co-Creation Hub ก็มาประชุมตามนัด ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเป็นไปตามแผน แต่ตลอดการประชุม ผมแอบสังเกตว่าพี่แก๊ปมองเหม่อตาลอย ไม่ตื่นเต้นกับสิ่งตรงหน้าเท่าไร พรีเซนต์งานเสร็จพี่แก๊ปก็ชวนไปดู ‘สตูดิโอบ้าน’ ฝั่งตรงข้าม G Village ที่กำลังก่อสร้างอยู่ พาพวกเราสำรวจ All Area และเล่าให้ฟังถึงคอนเซปต์ที่ว่า ‘บ้านหลังนี้จะมีชีวิตได้ อยู่ที่ความสัมพันธ์และการใช้ชีวิตของคนในบ้าน’
เฟ่ยเลยปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมาได้ทันทีเลย นั่นคือการรวมคนที่ชอบในวัฒนธรรมฮิปฮอป (MC / B-Boy / DJ / Graffiti / Beatbox) มาอยู่ในบ้านหลังนี้ น่าจะทำให้บ้านหลังนี้มีชีวิตตามคอนเซปต์แน่นอน ผมและพี่แก๊ปเห็นด้วยกับเฟ่ยทันที เพราะที่ผ่านมาในแต่ละ Element ยังไม่เคยมีการรวมกันโดยที่แต่ละ Element มีบทบาทในงานที่จัดขึ้นแบบเท่าเทียมกันจริงๆ เลย
ตลอดมาเท่าที่ผมรู้… Hiphop Culture บ้านเรามันมีความคิดที่แต่ละสายอยากเชื่อมต่อกันมาตลอด แต่ยังไม่มีโอกาสได้มารวมตัวคุยกันแบบจริงๆ จังๆ สักที พอคิดกันได้แบบนี้ผมก็ยกหูโทรหาแต่ละคนทันทีเลย
- B-Boy คือ ท๊อป aka I-STYLE
- DJ คือ เต้ aka DJ TNT
- Graffiti คือ เดล aka BIGDEL
- Beatbox คือ เป็ด aka PEDPED
ซึ่งพอได้รับการติดต่อ ทุกคนก็เอาด้วยทันทีเช่นกัน! แถมน้ำเสียงของแต่ละคนก็ตื่นเต้นเอามากๆ ทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่า จริงๆ แล้วสิ่งสำคัญของงานที่เราวางแผนจะจัดขึ้นครั้งนี้ นอกจากการรวมกันของรากต่างๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมฮิปฮอป ที่มีเกิดขึ้นน้อยมากในบ้านเราแล้ว, สิ่งสำคัญมันคือการ ‘เชื่อมต่อกันระหว่างรุ่น’ อีกด้วย
ต้องยอมรับว่าตลอดมา Element ต่างๆ มันเคยมีเรื่องขัดแย้งกันเยอะระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่มาโดยตลอด นั่นก็อาจเป็นเพราะมันไม่มีพื้นที่หรือวาระให้ทุกคนได้พูดคุย พบปะ ทำความรู้จักกันจริงๆ จังๆ นอกจากในโซเซียลเน็ตเวิร์ก
จากไฟกองแรกที่เราร่วมจุดประกายให้มันได้ ‘เริ่มต้นขึ้น’ ที่เหลือก็คือการรวบรวมพลังความคิดจากทุก Element การทำงานส่วนใหญ่คือการนัดเวลาเพื่อ ‘วิดีโอคอล’ กันในวันหยุด ซึ่งเฟ่ยและน้องฝึกงานจะเป็นคนดูภาพรวมของบ้านหลังนี้ เราก็จะคอยเป็นคนกลางในการรวบรวมและสนับสนุนความคิดจากทุกคน และมีแอมจากทีม Rap is Now มาช่วยจัดการระบบหลังบ้านอีกด้วย (เปรมใจ ลำเหลือ ผู้อยู่เบื้องหลังการจัดการที่แสนจะซับซ้อนวุ่นวายของทีม Rap is Now) และเรายังมี มะริ-ศิริประภา ค่านคร หัวหน้าเผ่านำเล่นของ G Village Co-Craetion Hub มาเป็นหน่วยซัพพอร์ตและที่ปรึกษาชั้นดี คอยช่วยรวบรวมเรื่องราวการร่วมสร้างสรรค์พลังงานดีๆ ของทุก Element ให้ส่งต่อออกไปในวงกว้าง
ซึ่งตลอดเวลาในการช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ผมสัมผัสได้เลยว่าข้อดีที่สุดของงาน #HipHopHouse นี้คือ เราได้ดรีมทีมที่ทุกคนมีพลังบวกและ Respect กันมากๆ เรื่องของอีโก้คือศูนย์ มีแต่มาสุมหัวช่วยกันแชร์ความหลงใหลในสิ่งที่ตัวเองรัก และตั้งใจถ่ายทอดประสบการณ์ในงานที่ตัวเองถนัดและแม่นยำ เพื่อเตรียมจะเอามาแลกเปลี่ยนกันให้คนที่สนใจและรักในเรื่องราวของฮิปฮอปได้มาสัมผัส Element ต่างๆ แบบใกล้ชิดที่สุด No เขิน No กลัว แค่เอาตัวเองมาเปิดรับ และทำความรู้จักสิ่งที่เรารักเหมือนๆ กันก็พอ
หลังจากรวมหัวกันได้สักพัก พวกเราก็สรุป Core Idea หลักของงานนี้ได้ และคิดว่ามันเป็นมิชชันที่สำคัญมากจริงๆ นั่นคือการที่จะต้องทำการส่งต่อวัฒนธรรมฮิปฮอปไปสู่คนรุ่นต่อไป เพราะถ้าอยากให้ฮิปฮอปไปต่อ นี่คือโอกาสที่ดีมากๆ อย่างที่ Rap is Now เคยใช้คำว่า ‘รันวงการ’ อยู่บ่อยๆ มันจึงทำให้เกิดองค์ประกอบหลักของงานนี้ 4 ส่วนหลักคือ
1. Exhibition
เราใช้ชั้น 2 ของบ้านแบ่งออกเป็น 2 ห้อง ห้องแรกคือห้อง ‘Throwback Screen’ มันคือการรวบรวมฟุตเทจจาก 5 Elements ในสมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในส่วนนี้พวกเราได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆ รุ่นบุกเบิกเยอะมาก ซึ่งในห้องนี้คนที่ดูจะได้สัมผัส Vibe ของวงการเมื่อ 20 ปีก่อนแบบที่หาดูได้ยากมากๆ ในส่วนของห้องต่อมาชื่อว่า ‘โรงเรียนเก่า’ ซึ่งเปิดอิสระให้ทุก Element ได้เลือกสิ่งที่จะนำเสนอโดยไม่จำกัดวิธีการ ซึ่งแบ่งออกเป็นดังนี้
MC: นำเสนอวิดีโอการพูดคุยเรื่องของไทม์ไลน์ของศิลปินฮิปฮอปของไทย ผ่านมุมของนักสะสมและพี่ป๊อ aka MEAWZILA (ฉัฐพล จรรโลงบุตร แรปเปอร์ยุคบุกเบิกที่เคยสังกัดกับพรรคก้านคอคลับ) ซึ่งศิลปินที่อยู่ในวงการในยุคนั้นมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ เรียกว่าบอกละเอียดสุด ให้คนที่อยากรู้และอยากขุดราก เข้าใจแบบไร้รอยต่อกันเลย
B-Boy: บอกเล่าผ่านแฟชั่น เสื้อผ้า สิ่งของสะสม ของเล่น โมเดล โปสเตอร์ปิดห้องต่างๆ ที่บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของผองชน B-Boy ในแต่ละยุคสมัย โดย I-STYLE หรือท๊อป เลือกเล่าเรื่องผ่านเตียงสองชั้นที่อยู่ชั้นบนของบ้าน เพื่อจะถ่ายทอดแรงบันดาลใจของแฟชั่นทุกยุคสมัยที่มักจะเริ่มง่ายๆ จากการแต่งตัวในห้องนอน
DJ: สื่อสารผ่านแผ่นเสียงที่เป็นต้นกำเนิดของเพลงฮิต ไปจนถึงซาวด์ที่เราได้ฟังกันคุ้นหูในปัจจุบัน ซึ่ง DJ TNT จัดหนักเพลย์ลิสต์ที่ตั้งใจจะสะท้อน Mood and Feeling ของความเป็นฮิปฮอป ซึ่งเพลงแนวนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนมากๆ (เวลาเราได้ยินเพลงแนวฮิปฮอปคือเราจะรู้เลยว่า เออ! นี่แหละ) แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังมีอีกหลายเพลงฮิปฮอปที่ถูกสร้างสรรค์ในแบบต่างๆ และพี่เต้ก็ขนมาเปิดให้พวกเราในบ้านได้ฟัง
Graffiti: แยกเป็น 2 ส่วนคือ Graffiti Wall ที่เป็นแลนด์มาร์กของงานในครั้งนี้ ซึ่งใช้เวลาพ่นถึง 3 วัน เพื่อที่จะให้เกิดรูปภาพที่เป็นหัวใจของงาน โดย BIGDEL หรือพี่เดลของเราออกแบบโดยใช้ตัวเลโก้มา Represent ความเป็น Element ต่างๆ ของฮิปฮอป ตั้งใจให้เรานึกถึงความสนุกในการเล่นด้วยกันแบบตอนเป็นเด็ก โดยที่ตัวเลโก้มันยังสื่อความหมายถึงการเชื่อม ‘ต่อกัน’ ของสิ่งเล็กๆ ที่รวมกันแล้วเกิดสิ่งใหม่ เป็นภาพใหญ่ที่แทนความหมายของพวกเราทุก Element ในการมารวมกันครั้งนี้ 🙂 นอกจาก Graffiti Wall ยังมีในส่วนของดิสเพลย์ที่บอกเล่าในเรื่องของแมตทีเรียลต่างๆ ที่เป็นองค์ประกอบในการสร้างสรรค์ผลงาน และยังมีการจัดแสดงชิ้นงานที่สำเร็จแล้วมาโชว์ให้ดูอีกด้วย
Beatbox: จัดทำอินโฟกราฟิกแสดงถึงที่มาของเสียงต่างๆ จากอวัยวะของเรา และยังมีเครื่อง Loop Station มาให้คนในงานมาทดลองอัดเสียงสดๆ ไฮไลต์คือ PEDPED มีจำลองบรรยากาศสถานที่เราจะได้ลองอัดบีต เสกให้อยู่ในห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน! คือเหมือนกับที่ธรรมชาติของคนอัด Beatbox เขามักจะอัดเสียงซ้อมบีตกันในห้องน้ำอย่างไรอย่างนั้นเลย
นอกจากนี้ภายในบ้านชั้น 1 เรายังได้มีการแสดงงาน Photo Gallery จาก SOMFILMSNAP ที่มาบอกเล่าวงในของชีวิตชาวฮิปฮอปผ่านภาพถ่ายสวยๆ และมีงานสตรีทอาร์ตจากกลุ่มศิลปินเลือดใหม่ TEMPORARYWEST ที่พาให้เรารู้จักการทำ Tape Decoration ศิลปะการใช้สกอตช์เทปวาดลายที่สื่อถึงความเป็น Element ต่างๆ ขึ้นมา มีวาดอักษรสดๆ ด้วยศิลปะ Typography กันบนกระจกรอบตัวบ้าน ช่วยเสริมความน่าสนใจและความเท่ให้กับบ้านหลังนี้อีกด้วย ดูองค์รวมทั้งหมดแล้ว งานนี้เหมือนธีสิสที่เราออกแบบให้เหมือนว่าชั้น 1 คือปัจจุบันของสิ่งที่เราจะเป็นได้และสร้างสรรค์มันมาจนถึงเลเวลนี้ และชั้น 2 คืออดีตที่เราเคยผ่าน เห็น และเรียนรู้มาด้วยกัน
2. Lunch Talk
อย่างที่บอกคือพวกเรา 5 Elements ไม่เคยคุยกันจริงจังมาก่อน จึงทำให้เกิดการนั่งคุยกันในเรื่องของ Thai Hiphop Culture พร้อมกับกินอาหารกลางวันไปด้วยพร้อมกันเลย ซึ่งในวันงานก็ได้คุยปัญหาของแต่ละส่วน ปรับความเข้าใจ และยังได้อธิบายความเป็นไป ความต้องการในส่วนของตัวเองกันด้วย ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ ได้เห็นทุกคนหันหน้าเข้ามาคุยกันเป็นครั้งแรก
3. Workshop
การส่งต่อวัฒนธรรมที่ดีที่สุดคือ ‘การได้ลองทำ’ เราจึงเปิดเป็น Free Workshop ให้คนที่สนใจได้ลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้า ทำให้มีคนสนใจมามากกว่า 350 คน ซึ่งในแต่ละ Element ก็จะจัดเวิร์กช็อปที่น่าสนใจโดยผู้สอนที่มีประสบการณ์จริง โดยแบ่งสลอตให้คนเรียนสามารถเรียนได้หลายสกิลภายในวันเดียว (อารมณ์เข้าฐานตอนรับน้องมหาวิทยาลัย) สับเปลี่ยนกันไปมาตลอดช่วงกลางวัน เป็นเรื่องของการถ่ายทอดเรื่องสกิลและแนวคิดให้กับคนรุ่นต่อไป ซึ่งในขณะที่สอนกันอยู่ทุกคนดูมีความสุขมาก เหมือนได้เจอคนที่ชอบในสิ่งเดียวกันจริงๆ บางคนมาเรียนวันเดียวได้ไป 4 สกิลก็มี แถมดูออกเลยว่าได้พลังไฟลุกท่วมกลับบ้านไปลุยฝึกต่อ ไม่ Alone อีกต่อไป
4. Party
บทสรุปของสิ่งที่ทำมาทั้งหมดในตลอดวันคือการได้มาแจมปาร์ตี้ในซีนฮิปฮอปกันจริงๆ แบบ No Script ไม่มีการกำหนดอะไรทั้งนั้น อยากเต้น อยากแรป อยากจะบีต ก็ทำได้เลย ซึ่งมันเป็นธรรมชาติมาก นอกจากนั้นยังมีการล้อมวงแรปกับ Beatbox ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน เป็นการ Cross Element กันโดยมิได้นัดหมายอีกด้วย
ส่วนวิชวลภายในงานปาร์ตี้ก็ทำมาจากผลงานกราฟฟิตี้ของคนที่เรียนในตอนกลางวันนี่แหละ โดยพี่โจ้ Rap is Now (ศวิชญ์ สุวรรณกุล ผู้ก่อตั้ง Rap is Now และรับหน้าที่หลักคือ Art Director) ทำ Motion กันสดๆ ตอนนั้นเลย ซึ่งถือว่านี่คือปาร์ตี้ที่ Collab ครบทั้ง 5 Elements ทำให้ทุกคนพูดตลอดว่า จัดอีกบ่อยๆ นะ พอได้ยินฟีดแบ็กแบบนี้ก็ทำให้ทีมงานทุกคนหายเหนื่อยเลย สรุปจบปาร์ตี้ ทุกคนช่วยกันเคลียร์บ้านอย่างเรียบร้อย ทั้งที่ตอนแรกพูดกับเฟ่ยว่าก็กลัวบ้านจะพังว่ะ!
สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในงาน Hiphop House นะครับ หวังว่าเราจะได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าแบบนี้ด้วยกันอีก 😉
Love & Respect
ต้าร์ aka ARTISTRYX
Co-Founder / Rap is Now & YUPP!