วันนี้ (11 มีนาคม) จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ภายในโรงพยาบาลรามาธิบดี ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่รายงานว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 1 สูง 9 ชั้น ชั้นที่ 1-4 เป็นห้องปฏิบัติการ และชั้นที่ 5-9 เป็นที่พักผู้ป่วย เมื่อเวลาประมาณ 19.20 น.
สำหรับ ‘ต้นเพลิง’ พบว่าอยู่ด้านในห้องตรวจเลือดชั้น 2 บริเวณตู้เก็บความเย็นที่ใช้เก็บเลือด ซึ่งอยู่ใกล้กับตู้เอกสาร เพลิงได้ลุกไหม้เอกสารและชุดโต๊ะเก้าอี้ ทำให้เกิดกลุ่มควันกระจายขึ้นไปจนถึงชั้น 9 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องรีบตัดไฟและฉีดน้ำควบคุมสถานการณ์กว่า 20 นาทีเพลิงจึงสงบ จากนั้นจึงเร่งระบายควันในอาคาร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยกว่า 20 คนลงมาด้านล่างได้อย่างปลอดภัย มีเพียงผู้ป่วยวิกฤตที่อยู่ในห้องพักชั้น 5 ที่ห้ามเคลื่อนย้ายต้องมีแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลำเลียงแพทย์ที่อยู่ด้านบนลงมาด้านล่างโดยไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้าน ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า ในอาคาร 1 มีคนไข้รวมประมาณ 500 คน ประกอบด้วย ห้องเจาะเลือด ห้องเอ็กซเรย์ ห้องคลอด และห้องผ่าตัด
ทั้งนี้ โรงพยาบาลรามาธิบดีได้รับความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน รวมถึงอาคารต่างๆ ในการรองรับผู้ป่วยที่ถูกเคลื่อนย้าย
ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลรามาธิบดีได้สำรวจอาคารฝั่งทิศเหนือ หากมีความปลอดภัยที่เพียงพอ จะใช้เพื่อดูแลผู้ป่วยหนักต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของห้องให้บริการเจาะเลือด ห้องคลอด ห้องผ่าตัด จะต้องปิดบริการชั่วคราวจนถึงวันพรุ่งนี้ (12 มีนาคม)
ด้าน พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีรองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ควบคุมกำลัง ประกอบด้วย กองพันทหารสื่อสารที่ 12, กองร้อยทหารสารวัตร กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และกองพันทหารสารวัตรที่ 11 พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก เข้าช่วยเหลือตามการประสานงานจากโรงพยาบาลรามาธิบดีโดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากควันไฟ อำนวยความสะดวกในการจราจร และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างปลอดภัย