จากกรณีที่วานนี้ (27 มิถุนายน) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Panattaya Chatchana ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องของคุณพ่อที่ทำงานอยู่ในแคมป์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้พยาบาลมาตรวจหาเชื้อ และพบว่าคุณพ่อมีผลเป็นลบ 4 ครั้ง แต่ล่าสุดพบว่าเพื่อนร่วมห้องติดเชื้อจึงต้องตรวจอีกรอบ แต่ถูกยกเลิกผลตรวจ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเตียง ขณะที่ความเป็นอยู่ภายในแคมป์ดังกล่าว ในแต่ละวันจะได้ข้าวกล่องเพียง 50 กล่อง แต่ในแคมป์มีคนงานอาศัยอยู่กว่า 400 คน ล่าสุด THE STANDARD ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งใช้นามสมมติว่า ‘จูน’ เพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้
โดยจูนเล่าว่า เหตุผลที่ต้องโพสต์ข้อความดังกล่าว เนื่องจากเป็นห่วงสุขภาพของคุณพ่อ เพราะขณะนี้คุณพ่อมีอาการไข้ ไอ แต่กลับไม่สามารถตรวจหาเชื้อโควิดได้ แม้จะให้เงินเพื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน แต่ก็ไม่สามารถเดินทางออกจากแคมป์คนงานได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ทหารมาคุมไม่ให้มีการเข้า-ออก
“สิ่งที่ห่วงที่สุดตอนนี้ไม่ใช่เรื่องอาหาร เพราะหลายคนมีข้าวสารและอาหารแห้งกักตุนไว้ ใครมีอะไรก็สามารถกินประทังชีวิตไปได้ หรือถ้าอาหารไม่เพียงพอก็สามารถส่งไปให้คุณพ่อได้ แต่กังวลเรื่องผลตรวจของคุณพ่อมากกว่า เราอยากรู้ว่าสรุปแล้วคุณพ่อติดหรือไม่ติดกันแน่” จูนกล่าวกับผู้สื่อข่าว THE STANDARD
ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อพูดคุยกับคุณพ่อของจูน ซึ่งใช้นามสมมติว่า ‘น้อย’ โดยน้อยเล่าว่าตนเองเป็นคนงานก่อสร้างของบริษัท บวิค-ไทย จำกัด ปัจจุบันอายุ 54 ปี ซึ่งแคมป์พักพนักงานดังกล่าวตั้งอยู่ที่ซอยเพชรพระราม 9 ถนนเพชรพระราม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง แคมป์ที่พักมีลักษณะเป็นที่พักชั่วคราวแบบน็อกดาวน์ แบ่งสัดส่วนบริเวณตามไซต์งานก่อสร้างที่มีทั้งหมด 4 ไซต์งาน
โดยก่อนหน้านี้พบคนงานภายในแคมป์ติดเชื้อโควิด 9 ราย มีโรงพยาบาลมารับตัวไปแล้ว 4 ราย เหลืออีก 5 รายแยกกักตัวอยู่ภายในแคมป์ โดยมีการแยกอาคารที่พักต่างหาก ขณะที่น้อยตรวจหาเชื้อครั้งล่าสุดวันที่ 25 มิถุนายน หลังจากนั้นทราบว่าเพื่อนร่วมห้องติดเชื้อโควิด ทางบริษัทจึงให้โรงพยาบาลมาตรวจเชิงรุกอีกครั้ง ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน บริษัทกลับแจ้งว่าต้องยกเลิกผลการตรวจ เนื่องจากไม่มีเตียงรองรับ ล่าสุดจึงยังไม่ทราบผลว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่
“รัฐบาลมาสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้างตั้งแต่วันอาทิตย์ที่แล้ว ก็เลยจะออกไปตรวจเองเขาก็ไม่ให้ไป ลูกจะพาไปตรวจเขาก็ไม่ยอมให้ออกเพราะว่าผิดกฎ ทหารเข้ามากักมาปิดไว้ มันก็เลยมีประเด็นว่าแบบนี้ไม่ให้ออกไปแล้วจะเอาอะไรมาให้กิน ”
สำหรับความเป็นอยู่ของคนงานภายในแคมป์ น้อยเล่าว่าแต่ละวันจะได้รับอาหาร 40-50 กล่อง 2 รอบ รอบเช้าและรอบกลางวัน คนงานจึงได้บอกปฏิเสธอาหารกล่องที่มีจำนวนไม่เพียงพอไป และขอให้แจกเป็นอาหารแห้งแทน ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับแจกน้ำหรืออาหารแห้งแต่อย่างใด สำหรับยาและอาหารถ้าอยากได้ก็ต้องโทรสั่งวินมอเตอร์ไซค์จากด้านนอก หรือฝากให้ญาติของคนงานด้วยกันซื้อมาให้ แล้วแบ่งกินภายในที่พักคนงาน ในส่วนของน้อยตอนนี้เหลืออาหารเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ซองเท่านั้น
“อยากให้หน่วยงานรัฐเอาคนที่ติดโรคไปรักษา อีกเรื่องก็คืออาหารการกิน เอาพวกผมมากักไว้ คุณมีมาตรการอะไรจะมาช่วยจะมาเยียวยา เพราะผมออกไปไม่ได้ ข้าวปลาอาหารแห้ง พวกหยูกยา มันต้องมีมาให้บ้าง ไม่ใช่บอกว่าเดี๋ยวทางหน่วยงานจะมาช่วย คำว่าเดี๋ยวแล้วมันตอนไหน” น้อยกล่าว
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: https://www.facebook.com/100001355627360/posts/4108832672505213/?d=n