ความผิดพลาดแบบเหลือเชื่อของ ราฮีม สเตอร์ลิง ในช่วงท้ายเกมกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้โอลิมปิก ลียง เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ได้ผ่านเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศเป็นทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ส่วนทีม ‘เรือใบสีฟ้า’ ตกรอบแบบสุดช้ำ
เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 สิงหาคม) คู่สุดท้ายของเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เป็นการพบกันระหว่างโอลิมปิก ลียง ม้ามืดที่พลิกล็อกเอาชนะยูเวนตุสมาได้ในรอบที่แล้ว พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเล่นได้ยอดเยี่ยมโดยผ่านด่านเรอัล มาดริด มาได้ แต่เกมนี้ตามดีกรีแล้วทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เป็นตัวเต็งที่จะได้ผ่านเข้ารอบ
แต่เมื่อเริ่มเกม ลียงกลับสามารถตั้งหลักสู้ได้อย่างน่าประทับใจ และมาได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ลียงบุกขึ้นมา และเป็นทางด้าน แม็กซ์เวลล์ คอร์เนต์ ที่ยิงผ่าน เอแดร์สัน ที่ตัดสินใจพลาดยืนห่างเส้นเกินไปในนาทีที่ 24
ประตูดังกล่าวเป็นประตูโทนในครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเร่งเกมขึ้นมาและทำประตูตีเสมอได้สำเร็จจาก เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งแปบอลเข้าไปอย่างเหนือชั้น
หลังได้ประตูตีเสมอ ทุกอย่างเหมือนจะเข้าทางซิตี้แล้ว แต่ลียงกลับมาได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาทีที่ 79 จากจังหวะที่ มุสซา เดมเบเล ตัวสำรองที่ลงมาได้บอลจ่ายจนหลุดเดี่ยวไปล่อเป้าเอแดร์สันเข้าไป ซึ่งลูกนี้ทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามประท้วงว่า คาร์ล โตโก เอคัมบี กองหน้าอีกรายล้ำหน้าก่อน แต่ VAR เช็กแล้วยืนยันให้เป็นประตูตามเดิม
ถึงตรงนี้ซิตี้ต้องทุ่มสุดตัวเพื่อตีเสมอให้ได้ และน่าจะตีเสมอได้สำเร็จเมื่อ กาเบรียล เฆซุส พาบอลทะลุเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนตบเข้ากลางมาให้สเตอร์ลิงได้ซัดจ่อๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา แต่กลับยิงข้ามคานออกไปแบบที่ทุกคนในสนามไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ส่วนเจ้าตัวถึงกับทรุดเลยทีเดียว
แค่นั้นยังเลวร้ายไม่พอ เมื่อจังหวะต่อมาลียงก็กลับมาได้ประตูฝังเป็น 3-1 จากจังหวะที่เอแดร์สันเซฟลูกยิงมาเข้าทางเดมเบเลเจ้าเก่าได้ซ้ำเข้าไปสบายๆ ก่อนที่ลียงจะรักษาสกอร์เอาไว้ได้ และได้ผ่านเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ โดยจะพบกับเต็งหนึ่งอย่างบาเยิร์น มิวนิก ในวันที่ 21 สิงหาคม ส่วนอีกคู่ แอร์เบ ไลป์ซิก จะพบกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในวันที่ 20 สิงหาคม
