ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียใช้เวทีการประชุมนานาชาติอย่างองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation: SCO) เป็นพื้นที่ในการเน้นย้ำถึงความมั่นคงและความเป็นปึกแผ่นของรัสเซียต่อบรรดาชาติพันธมิตร หลังจากเกิดกรณีกบฏวากเนอร์ในรัสเซียเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
โดยผู้นำรัสเซียเข้าร่วมการประชุม SCO ผ่านช่องทางออนไลน์และแสดงทัศนะต่อประเด็นดังกล่าวเป็นครั้งแรก หลังจากที่กลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ตัดสินใจเคลื่อนกำลังพลจากฐานที่มั่นทางตอนใต้ของรัสเซียมุ่งหน้าสู่กรุงมอสโก ก่อนที่จะยุติปฏิบัติการดังกล่าวในท้ายที่สุด ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของรัสเซียภายใต้การนำของปูตินสั่นคลอนไม่น้อย
ปูตินระบุว่า “ประชาชนชาวรัสเซียเป็นปึกแผ่นยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา” และยังกล่าวว่า “ภาคส่วนต่างๆ ของรัสเซียต่างแสดงให้เห็นแล้วถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและมีส่วนรับผิดชอบต่อชะตากรรมของแผ่นดินเกิด หลังจากที่พวกเขาร่วมกันปกป้องและต่อต้านความพยายามในการก่อกบฏในครั้งนี้”
ปูตินยังได้กล่าวขอบคุณเวทีการประชุม SCO อีกว่า เวทีนานาชาตินี้ได้สนับสนุนความพยายามของเขาในการปกป้องกฎระเบียบที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ รวมถึงชีวิตและความปลอดภัยของพลเมือง พร้อมทั้งให้คำมั่นว่ารัสเซียจะยังคงยืนหยัดต่อสู้กับแรงกดดันจากตะวันตก มาตรการคว่ำบาตร และการยั่วยุต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการพิเศษทางทหารที่รัสเซียได้เริ่มเปิดฉากขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครนเมื่อช่วงต้นปี 2022
ผู้นำรัสเซียมองว่าประเทศสมาชิกหลักของ SCO โดยเฉพาะจีน อินเดีย รวมถึงอิหร่านที่เพิ่งก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของ SCO อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (4 กรกฎาคม) ต่างเป็นตัวแสดงสำคัญที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงร่วมกันกับทางการรัสเซีย โดยเฉพาะกับการรับมือกับความพยายามของสหรัฐอเมริกาที่ต้องการจะบงการระเบียบโลกในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ปัจจุบันองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้มีสมาชิกทั้งหมด 9 ประเทศ โดยมีประเทศสมาชิกร่วมก่อตั้ง 6 ประเทศ ได้แก่ จีน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน รัสเซีย ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน (2001) ก่อนที่ในปี 2017 อินเดียและปากีสถานจะเข้าเป็นสมาชิกของ SCO และมีอิหร่านเป็นสมาชิกล่าสุด (2023) อยู่ในขณะนี้ ขณะที่เบลารุสได้เริ่มแสดงความจำนงที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 10 ของ SCO ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2022 และยังคงอยู่ในขั้นตอนพิจารณาในหมู่ประเทศสมาชิกเดิม
ภาพ: Alexander Kazakov / SPUTNIK / AFP
อ้างอิง:
