จากกาแฟสู่ก๋วยเตี๋ยวเรือ กาแฟพันธุ์ไทยแตกไลน์ธุรกิจ จัดตั้งบริษัทย่อย ‘ก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย’ ขายเครื่องดื่ม เบเกอรี และก๋วยเตี๋ยวไว้ในร้านเดียวกัน ประกาศปี 69 เร่งขยายให้ครบ 50 สาขา มั่นใจตลาด Street Food โตแรง
อนันต์ รัตนมั่นคง Vice President of Food and Beverage Services Group บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า การจัดตั้งบริษัทย่อยครั้งนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างความหลากหลายทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กลุ่มกาแฟพันธุ์ไทย โดยอาศัยแบรนด์ที่แข็งแกร่งของพันธุ์ไทย ขยายเข้าสู่ตลาดอาหารที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะตลาด Street Food ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 2.6 แสนล้านบาทในปี 2568 เติบโต 4.7% จากปีก่อน และเป็นเซกเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดของตลาดร้านอาหารรวมที่มีมูลค่ากว่า 5.6 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการตอบโจทย์กับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า ความแปลกใหม่ รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้พันธุ์ไทยมองเห็นโอกาสพัฒนาเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่ถูกพัฒนามาจากฝ่าย R&D ที่มีศักยภาพสูง สามารถคิดค้นเมนูใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และซิกเนเจอร์เอ็นหมูหาดใหญ่ ส่งตรงจากสงขลา ซึ่งถือเป็นการสร้างให้เป็นจุดขายเฉพาะของแบรนด์
ทั้งนี้ ก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทยได้เปิดสาขาแรกที่รังสิตคลอง 3 มาตั้งแต่ต้นปี 2568 เพื่อทดสอบโมเดลร้านซึ่งได้รับผลตอบรับดี เนื่องจากทำเลตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องก๋วยเตี๋ยวเรือและมีดีมานด์สูง จากความสำเร็จของโมเดลทดลอง จากนั้นก็ได้เปิดสาขา 2 ที่คลองหลวง 8 จ.ปทุมธานี และมีแผนเปิดเพิ่มที่คลองหลวง 3 ตามมาภายในปลายปีนี้
สำหรับทิศทางในปี 2569 บริษัทเตรียมขยายสาขาเชิงรุก ตั้งเป้าเปิดครบ 50 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยแบ่งเป็นสาขาในและนอกปั๊มน้ำมันอย่างละครึ่ง โดยสาขานอกปั๊มจะเน้นทำเลในเขตเมือง ออฟฟิศ และย่านธุรกิจ (CBD)
สำหรับกลยุทธ์สำคัญในการเติบโตคือการเชื่อมต่อ Ecosystem ของร้านกาแฟพันธุ์ไทยและร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย ผ่าน Co-promotion โดยใช้บัตรสมาชิก Max Card เพื่อสร้าง Brand Loyalty ขยายฐานลูกค้าใหม่ และกระตุ้นยอดขายของทั้งสองแบรนด์ควบคู่กัน
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว ก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย ไม่เพียงเสริมพอร์ตโฟลิโอธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของกลุ่มพันธุ์ไทย แต่ยังสะท้อนความพยายามยกระดับ Street Food ไทย และต้องการสร้างอาณาจักรอาหารให้ครบวงจรในอนาคต


