เหตุผลที่ ‘ประกันชีวิตควบการลงทุน’ ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความเข้าใจในจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เล็งเห็นถึงความคุ้มค่าที่ได้มากกว่าความคุ้มครองชีวิต แต่ยังทำหน้าที่เป็นช่องทางการลงทุนให้เงินได้ทำงานภายใต้ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของกองทุนรวมที่ยอมรับได้ และแม้ท้ายที่สุดผู้เอาประกันภัยจะเสียชีวิตแต่ความมั่งคั่งที่สั่งสมมาจะถูกส่งต่อให้กับคนข้างหลัง
สอดคล้องไปกับข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย ที่เผยให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของนักลงทุนไทยที่สนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี ในช่วงปี 2564-25662
2ที่มา: https://www.prudential.co.th/corp/prudential-th/th/whats-new/uob-thailand-and-prudential-thailand-launch-pruassure-link/
ข้อมูลวันที่ (11 กรกฎาคม 2567)
ทว่าในมุมของนักลงทุน แม้ทุกการลงทุนจะตามมาด้วยความเสี่ยงก็ยังอยากได้ความเชื่อมั่นว่าผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นๆ จะคุ้มค่าในระยะยาว นี่คือ Pain Point ที่พันธมิตรธุรกิจด้านแบงก์แอสชัวรันส์ระดับภูมิภาคอาเซียนของธนาคารอย่าง ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และ พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต เห็นตรงกันว่าควรที่จะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการส่งต่อความมั่งคั่งให้กับครอบครัว หรือคนที่กำลังมองหาโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน นำไปสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์ล่าสุด ‘PRUAssure Link’ แผนประกันชีวิตควบการลงทุน ที่มอบความคุ้มครองชีวิต ด้วยผลรวมของจำนวนเงินเอาประกันภัยของเบี้ยประกันภัยหลัก รวมกับมูลค่าที่มากที่สุดภายใต้เบี้ยประกันภัยหลัก ระหว่างมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนสูงสุด (WAV)1 ณ วันที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ณ วันที่ประเมินราคาวันแรกที่สามารถทำรายการได้ หรือเบี้ยประกันภัยหลักทั้งหมดที่ชำระมาแล้ว (ตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์กำหนด) เพื่อความมั่นคง พร้อมส่งต่อโอกาสในความมั่งคั่ง แม้ตลาดจะผันผวน ก็ยังคงมั่นใจได้ว่า ผู้เอาประกันภัยจะได้รับผลประโยชน์ที่มีมูลค่าที่สูงสุด (ตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์กำหนด)
อะไรทำให้ PRUAssure Link ต่างจากประกันชีวิตควบการลงทุนทั่วไปในตลาด
ข้อแรกคือ PRUAssure Link เป็นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนแรกในประเทศไทยที่ล็อคมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนสูงสุดตลอดอายุสัญญา (WAV)1 ซึ่งเป็นมูลค่าที่ใช้ในการคำนวณการจ่ายผลประโยชน์ ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ผู้เอาประกันภัยจึงมั่นใจได้ถึงโอกาสที่จะได้รับมูลค่าความคุ้มครองที่ดีที่สุด โดยจะได้รับผลประโยชน์จากจำนวนเงินเอาประกันภัยของเบี้ยประกันภัยหลัก รวมกับ มูลค่าที่มากที่สุดภายใต้เบี้ยประกันภัยหลัก ระหว่างมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนสูงสุด (WAV)1 ณ วันที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือ มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ณ วันที่ประเมินราคาวันแรกที่สามารถทำรายการได้ หรือเบี้ยประกันภัยหลักทั้งหมดที่ผู้เอาประกันภัยชำระมาแล้ว (ตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์กำหนด)
จุดเด่นต่อมาคือ จะได้รับเงินโบนัสพิเศษทุกๆ 8 ปี โดยจะเริ่มจ่ายตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 9 เป็นต้นไป ในอัตราร้อยละ 4 ของเบี้ยประกันภัยหลักรายปี เพื่อนำไปต่อยอด เพิ่มโอกาสสร้างความมั่งคั่งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนด
ส่วนการปกป้องความมั่งคั่ง มอบทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายในกองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศกว่า 29 กองทุน ให้คุณสร้างโอกาสในการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการและระดับความเสี่ยงของคุณ และยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
และยังช่วยลดภาระ เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย (Premium Charge) ตลอดอายุสัญญาสำหรับเบี้ยประกันภัยหลัก โดยกำหนดระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยหลักไว้ที่ 5 ปี เบี้ยประกันภัยหลักขั้นต่ำ 300,000 บาท/ ปี อายุรับประกันภัยตั้งแต่ 1 เดือน – 70 ปี ระยะเวลาเอาประกันภัยถึงอายุครบ 99 ปี ที่สำคัญสมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงตอบคำถามสุขภาพแบบสั้น ทั้งนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนด ทั้งนี้ การแถลงสุขภาพเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณารับประกันภัย หรือจ่ายเงินตามสัญญาประกันภัย
PRUAssure Link เหมาะกับใคร
กลุ่มคนที่ตอบโจทย์ที่สุดก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่อยากส่งต่อความมั่งคั่งให้กับครอบครัวหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ตีวงให้แคบลงมาหน่อยก็ควรจะเป็นนักลงทุนที่เข้าใจเรื่องการลงทุน เพราะอย่าลืมว่า หากราคาหน่วยลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต แต่อย่างน้อยก็อุ่นใจได้ว่า มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนสูงสุดตลอดอายุสัญญา(WAV)1 จะถูกล็อคไว้ มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนสูงสุดตลอดอายุสัญญา (WAV) จะถูกล็อคไว้ เพื่อนำมาคำนวณในการจ่ายผลประโยชน์เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดด้วยเช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ ธนาคารยูโอบี ทุกสาขา หรือโทร. 02 285-1555 หรือหรือคลิก https://go.uob.com/3Xkm9wX
คำเตือน สำหรับแบบประกันชีวิตควบการลงทุน
- ผลิตภัณฑ์นี้ เป็นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน มิใช่การฝากเงิน มีความเสี่ยงจากการลงทุนและไม่มีการรับประกันส่วนของเงินลงทุน
- ผู้ซื้อต้องศึกษาและและทำความเข้าใจในลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไข ผลตอบแทน รายละเอียดค่าธรรมเนียม และความเสี่ยง รวมถึงศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลในหนังสือชี้ชวนของกองทุน ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยและตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต และอาจส่งผลต่อระยะความคุ้มครองของกรมธรรม์
- เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดตามกรมธรรม์ ผู้เอาประกันภัยควรชำระเบี้ยประกันภัยจนครบระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัย และถือครองกรมธรรม์จนครบกำหนดสัญญา หากกรมธรรม์ยุติความคุ้มครองก่อนครบกำหนดสัญญา ผู้เอาประกันภัยอาจไม่ได้รับเงินคืนเท่ากับสิทธิประโยชน์สูงสุดตามกรมธรรม์หรือจำนวนเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้ว
- กรณีที่บริษัทฯ ไม่คุ้มครอง
-
- ผู้เอาประกันภัยฆ่าตัวตายด้วยใจสมัครภายในหนึ่งปี (1ปี) นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือหากมีการต่ออายุกรมธรรม์ให้นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุนั้น ความรับผิดชอบของบริษัทฯ จะมีเพียงคืนมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน และค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอหนังสือแจ้งรายงานสถานะทางการเงินของกรมธรรม์ (ถ้ามี)
- ถ้าผู้เอาประกันภัยถูกผู้รับผลประโยชน์ฆ่าตายโดยเจตนา ความรับผิดชอบของบริษัทฯ จะมีเพียงคืนมูลค่ารับคืนหน่วยลงทุน ให้แก่ทายาทของผู้เอาประกันภัย
- ผู้เอาประกันภัยมีสิทธิยกเลิกกรมธรรม์ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์ บริษัทฯ จะคืนมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน และค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ภายหลังการหักค่าใช้จ่าย 500 บาท รวมทั้งค่าตรวจสุขภาพ (ถ้ามี)
- เบี้ยประกันภัยเฉพาะส่วนการประกันชีวิต (ไม่รวมส่วนการลงทุน) สามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี (ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร)
- แบบประกันชีวิตควบการลงทุน “พรูแอสชัวร์ ลิงค์” เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันชีวิตควบการลงทุน “ยูนิตลิงค์ เวลท์ แอสชัวร์”
- หากต้องการจำนวนเงินเอาประกันภัยสูง ค่าการประกันภัยจะสูงตามไปด้วย และจะยิ่งสูงขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัยมีอายุมากขึ้น
- ค่าธรรมเนียมบางรายการจะแปรผันกับอายุของผู้เอาประกันภัย และผลตอบแทนของกองทุน
- ค่าธรรมเนียมจะหักจากเบี้ยประกันภัยที่จ่ายและจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกเดือน และถ้าเบี้ยประกันภัยและมูลค่าบัญชีกรมธรรม์มีไม่เพียงพอกับค่าธรรมเนียม กรมธรรม์จะสิ้นผลบังคับทันที ดังนั้นผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลในกรมธรรม์และดูแลการลงทุนในกองทุนรวมให้เติบโต มิฉะนั้นต้องเพิ่มการลงทุนโดยการ Top-up เพื่อกรมธรรม์ไม่สิ้นผลบังคับ