หลังจากเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการรับมอบสารสกัดน้ำมันกัญชา จีพีโอ เมดิคัลเกรดล็อตแรกชนิด THC สูงขนาด 5 ml จำนวน 4,500 ขวดจากทั้งหมด 6,500 ขวดจากองค์การเภสัชกรรม เพื่อให้บริการผู้ป่วยในโรงพยาบาลศูนย์ 12 แห่ง และโรงพยาบาลด้านแพทย์แผนไทย 7 แห่งทุกเขตสุขภาพ และผู้ป่วยในโครงการศึกษาวิจัยและการรักษากรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
ล่าสุด นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยไว้ว่า วันนี้ (19 ส.ค.) นับว่าเป็นวันแรกที่โรงพยาบาลศูนย์ 12 แห่ง และโรงพยาบาลจัดบริการการแพทย์แผนไทย 7 แห่ง จะเริ่มแจกสารสกัดกัญชาสูตร THC ที่ สธ. รับมาจากองค์การเภสัชกรรมจำนวน 4,500 ขวด โดยแบ่งให้กรมการแพทย์ 600 ขวด ขณะที่โรงพยาบาลศูนย์ 12 แห่ง แห่งละประมาณ 350 ขวด และโรงพยาบาลด้านการแพทย์แผนไทย 7 แห่ง แห่งละ 350 ขวด
โดยย้ำว่า ต้องเป็นผู้ป่วยมารับและมีความจำเป็น ใช้ยารักษาวิธีอื่นไม่ได้ผลแล้ว ซึ่งจะมีแพทย์ตรวจตามมาตรฐานที่ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรของกรมการแพทย์ โดยไม่มีการเสียเงินใดๆ สำหรับรายชื่อทั้ง 19 โรงพยาบาลประกอบไปด้วย
โรงพยาบาลที่ให้บริการสารสกัดกัญชา 12 แห่ง ได้แก่
- โรงพยาบาลลำปาง จังหวัดลำปาง
- โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก
- โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์
- โรงพยาบาลสระบุรี จังหวัดสระบุรี
- โรงพยาบาลราชบุรี จังหวัดราชบุรี
- โรงพยาบาลระยอง จังหวัดระยอง
- โรงพยาบาลขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
- โรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
- โรงพยาบาลบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี
- โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โรงพยาบาลที่จัดบริการการแพทย์แผนไทย 7 แห่ง ได้แก่
- โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี
- โรงพยาบาลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี
- โรงพยาบาลดอนตูม จังหวัดนครปฐม
- โรงพยาบาลเด่นชัย จังหวัดแพร่
- โรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จังหวัดสกลนคร
- โรงพยาบาลคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
- โรงพยาบาลท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ก่อนหน้านี้ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า สารสกัดน้ำมันกัญชาล็อตแรกจำนวน 600 ขวด ที่กรมการแพทย์ได้รับเป็นชนิด THC สูง จะนำไปใช้ในการศึกษาวิจัยเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง 100 ขวด เพื่อศึกษาฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนเซลล์มะเร็ง 10 ชนิด ได้แก่ มะเร็งปอด, มะเร็งตับ, มะเร็งท่อทางเดินน้ำดี, มะเร็งเต้านม, มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง, มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง, มะเร็งรังไข่, มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งตับอ่อน
โดยอีก 500 ขวด จะนำไปศึกษาวิจัยในสัตว์ทดลอง เพื่อศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของสารสกัดกัญชาในหนูทดลอง รวมถึงทดสอบความเป็นพิษในสัตว์ทดลอง สำหรับน้ำมันกัญชาชนิดที่มีอัตราส่วน THC ต่อ CBD 1 : 1 และ CBD สูงที่จะได้รับนั้น จะมอบให้แก่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัย และการศึกษาวิจัยคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว บางส่วนจะนำไปใช้กับผู้ป่วยโรคลมชัก โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันประสาทวิทยา สมาคมกุมารประสาทวิทยา (ประเทศไทย) และ อภ.
นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งคลินิกให้คำปรึกษาการใช้กัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาล, สถาบันเฉพาะทางในสังกัดกรมการแพทย์แล้ว อาทิ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี สถาบันทันตกรรม เป็นต้น และจะครบ 32 แห่งกลางเดือนสิงหาคมนี้ ประชาชนปรึกษาเกี่ยวกับการเฝ้าระวังพิษจากกัญชาได้ที่สายด่วน 1165 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งอยู่ระหว่างการจัดทำ LINE Official ให้คำปรึกษาระหว่างสถานบริการสุขภาพและการส่งต่อผู้ป่วยเมื่อเกิดอาการทางจิตจากกัญชา
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: