วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) บรรยากาศที่อาคารรัฐสภา เป็นวันนัดหมายลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยผลคะแนนปรากฏต่อสาธารณะชนแล้วว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 9 รัฐมนตรี ผ่านญัตติซักฟอกได้รับความไว้วางใจทุกคน เพียงแต่มีคะแนนที่ไม่เท่ากันเท่านั้น (อ่านรายละเอียดผลการลงมติ https://thestandard.co/10-ministers-distrust-debate-result/)
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรีรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ในหนที่สองปิดฉากลงเรียบร้อยแล้ว ผลในทางคณิตศาสตร์การเมืองเป็นไปตามที่คาดการณ์ เพราะเสียง ส.ส. ฟากรัฐบาลไม่ได้ปริ่มน้ำอีกต่อไป และมีจำนวนมากกว่าฝ่ายค้านหลายสิบคน แต่แรงกระเพื่อมต่อสังคมคงต้องติดตามในหลายประเด็นที่ฝ่ายค้านได้ซักฟอก ทั้งปมเหมืองทองอัครา การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ นำมาซึ่งการรู้จัก ‘ตั๋วช้าง’ อย่างกว้างขวางในสังคม การจัดหาวัคซีนโควิด-19 กรณีถุงมือยาง โครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมเมืองจะนะ เป็นต้น
ส่วนจะมีการปรับใครออกจากคณะรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ยังไม่มี ยังไม่คิดอะไร ประเมินด้วยผลงานมากกว่า ถึงเวลาตนก็ดำเนินการเอง
ขณะที่เมื่อตรวจสอบแล้วยังพบว่ามี ส.ส. พรรคก้าวไกล จำนวน 4 คน ที่โหวตไว้วางใจให้อนุทินและศักดิ์สยามด้วย ได้แก่ พีรเดช คำสมุทร ส.ส. เชียงราย เขต 6, คารม พลพรกลาง ส.ส. บัญชีรายชื่อ, ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส. ชลบุรี เขต 5 และ นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส. เชียงราย เขต 1
ด้าน ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่ายังมีเรื่องของอำนาจ ผลประโยชน์ นี่เป็นสภาพเเวดล้อมที่เป็นการเมืองเเบบเก่า แต่ที่เราทำตั้งเเต่เป็นสมัยพรรคอนาคตใหม่ ก็คือการเข้ามาเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงและเตรียมตั้งกรรมการสอบต่อไป
ยังมี ส.ส. กลุ่มก๊วนต่างๆ ที่แตกแถวไม่ได้โหวตามมติพรรค อาทิ กลุ่ม ส.ส. ดาวฤกษ์ ของ มาดามเดียร์-วทันยา วงษ์โอภาสี ที่โหวตงดออกเสียงให้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ พนิต วิกิตเศรษฐ์ หนึ่งเดียวของประชาธิปัตย์ที่โหวตงดออกเสียง แม้แต่รัฐมนตรีของพรรคตนเอง ขณะที่เพื่อไทยอย่าง พรพิมล ธรรมสาร และ พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ โหวตให้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้รับการไว้วางใจ
ที่เห็นชัดในหนนี้คือพรรคเพื่อชาติ ที่เทคะแนนเสียง 3 ใน 5 คน โหวตไว้วางใจ ร.อ. ธรรมนัส ขณะที่ 2 เสียงโหวตงดออกเสียง ทั้งที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็สะท้อนการเคลื่อนตัวของพรรคการเมืองนี้
ขณะที่ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ สุชาติ ชมกลิ่น น่าจะเป็นรัฐมนตรีที่ถูก ‘ธรรมนัสพ่นพิษ’ เพราะพรรคเล็ก 9 พรรคที่ยังอยู่ซีกรัฐบาล พร้อมใจกันโหวตสลับ ทั้งไม่ไว้วางใจ และงดออกเสียง
ข้ามมาที่ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งหนนี้ย้ายมาร่วมงานฝ่ายค้าน ได้โหวตลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทุกคน
ด้าน ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะพ่ายแพ้ต่อเสียงในสภา แต่เชื่อมั่นว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านชนะใจพี่น้องประชาชนที่ติดตามการอภิปรายด้วยข้อมูลและเหตุผลในช่วง 4 วันที่ผ่านมา จากนี้ฝ่ายค้านจะยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป เนื่องจากในประเด็นมีการทุจริตเกิดขึ้นชัดเจนและเกี่ยวข้องกับการทำงานของรัฐมนตรี
ภาพสะท้อนการเมืองจากผลการลงมติครั้งนี้ยังมองเห็นความเป็นปึกแผ่นของซีกรัฐบาล และคณิตศาสตร์ทางการเมืองคงคาดเดาผลได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือประชาชนได้มองเห็นผลลัพธ์ที่มากกว่าตัวเลข ภายใต้นัยทางการเมืองที่ปรากฏให้เห็นถึง จุดยืน-งูเห่า-รอยร้าวภายในนั่นเอง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า