Produce 48 ฟังชื่อแล้วอาจจะเหมือนกับ AKB48, BNK48 หรือ Produce 101 ซึ่งแน่นอนว่าเพราะสองค่ายยักษ์ใหญ่จากฝั่งเกาหลี (Mnet) และญี่ปุ่น (AKB48) นี้เองที่ได้ร่วมมือกันสร้างรายการเรียลิตี้เซอร์ไววัลนี้ขึ้น จุดประสงค์ก็เพื่อค้นหาเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มใหม่ 12 คน จากเด็กที่เข้าแข่งขันทั้งหมด 96 คน แบ่งเป็นจากเกาหลี 57 คน และญี่ปุ่น 39 คน โดยก่อนหน้าเคยมีการแข่งขันมาแล้ว 2 ซีซันในชื่อ Produce 101 ซีซันแรก ซึ่งเป็นการแข่งขันของเด็กสาวเกาหลี 101 คน คัดจนเหลือ 11 คน และเดบิวต์ในชื่อวง I.O.I ส่วนซีซัน 2 เป็นการแข่งขันของเด็กชายทั้งหมด 101 คนเช่นกัน และเดบิวต์ในชื่อวง Wanna One

 

สำหรับเด็กสาวผู้ชนะในรายการ Produce 48 ทั้ง 12 คนจะไม่ใช่แค่น่ารัก แบ๊วใส เต้นเก่ง หรือร้องเก่งแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เด็กกลุ่มนี้จะต้องมีครบทุกอย่างทั้งร้อง เต้น และความเฉิดฉายในแบบของตัวเอง เพื่อให้ได้ออกมาเป็นไอดอลกลุ่มใหม่ที่จะตีตลาดในระดับสากล

 

 

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นจากการคัดเลือกเด็กสาวชาวญี่ปุ่นและเกาหลีที่ดีที่สุดเข้ามาในรายการ จากนั้นก็เริ่มการแข่งขันเพื่อแบ่งกลุ่มออกไปเป็น 5 กรุ๊ปคือ A, B, C, D และสุดท้ายคือกรุ๊ป F โดยสาวๆ ทุกคนจะได้โชว์ความสามารถของตัวเองทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวตามโจทย์ในแต่ละสัปดาห์ อย่างเช่นสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันแบบ Group Battle แบ่งเป็น 16 ทีม มาแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะในแต่ละเพลง จาก 8 เพลงที่ทางรายการกำหนดให้ ผู้ชนะจะได้รับคะแนนพิเศษ เพื่อรวมกับคะแนนโหวตจากเว็บไซต์ คะแนนโหวตจากในสตูดิโอ ฯลฯ

 

การแข่งขันมีความยุติธรรม เพราะตัดสินเด็กทุกคนจากความสามารถล้วนๆ ไม่ว่าจะมาจากประเทศไหน ถ้าใครทำดีก็จะได้อยู่ในกรุ๊ปที่ดี ใครยังทำได้ไม่ดีก็จะถูกแยกกรุ๊ปออกตามลำดับความสามารถ เพราะฉะนั้นเด็กทุกคนจึงถูกกระจายไปในแต่ละกลุ่ม

เด็กสาวจากญี่ปุ่นหลายคนถูกกรรมการชาวเกาหลีตั้งคำถามถึงความสามารถอย่างดุเดือด อาจเพราะความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่สุดท้ายเมื่อแยกกลุ่มไป สาวๆ ชาวญี่ปุ่นหลายคนก็พยายามกันมากๆ จนกรรมการเอ่ยปากว่า “เด็กเกาหลีควรจะต้องระวังเด็กญี่ปุ่นให้มากๆ เพราะพวกเขามีความพยายามกันสุดๆ”

 

ในรายการ Produce 48 แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกมากมาย ทั้งความมุมานะของเหล่าเด็กสาวที่อยากเดบิวต์ ความเข้าอกเข้าใจ ความแตกต่างของภาษาที่ต้องฝ่าฟันเพื่อให้กรุ๊ปตัวเองชนะ แม้หนทางจะยากลำบาก แต่เด็กสาวเหล่านี้แสดงให้เราเห็นว่าความพยายามคือสิ่งที่พวกเธอต้องทำ เพราะสุดท้ายแล้วประตูของโอกาสอาจเปิดต้อนรับพวกเธอ

 

การแข่งขันเดินทางมาถึง EP.5 แล้ว สาวๆ หลายคนแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ของตัวเอง บางคนก็แสดงพรแสวงที่มาพร้อมความมุมานะอยากที่จะเข้ารอบไปให้ลึกที่สุดให้ได้ บางคนท้อแท้เสียใจก็กลับมาลุกขึ้นสู้ใหม่ ใครที่เก่งกว่าก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจและยังคงพัฒนาตัวเองต่อไป แต่การแข่งขันอย่างไรเสียก็ต้องมีผู้ตกรอบ วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศเกาหลี) จึงเป็นวันแห่งความเศร้าของเหล่าแฟนคลับ เพราะต้องมีคนตกรอบถึง 1 ใน 3 หรือ 35 คนจากทั้งหมด โดยนับจากคะแนนความนิยมที่ใครมีอันดับต่ำกว่า 59 คือผู้ที่ไม่ได้ไปต่อ

 

 

รายการนี้เรียกได้ว่าจะเป็นแฟนคลับหรือโอตะกันมาก่อนหรือไม่ ถ้าลองได้ดูสัก 2-3 ตอน คุณจะกลายเป็นโอตะแบบไม่รู้ตัว คนนั้นน่าก็น่าเชียร์ คนนี้ก็ดูเก่ง คนนั้นน่ารักจัง คนนี้พยายามเต็มที่จนต้องลุ้นตามไปด้วย และในบางทีน้ำตาก็ไหลออกมาเมื่อเห็นเขาประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้

 

นอกจากในฝั่งของผู้เข้าแข่งขัน เราขอแนะนำกรรมการของรายการ เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าพวกเขาเหล่านั้นมีดีกรีอะไรอย่างไร ทำไมพวกเขาจึงดึงดูดให้เราอยู่หน้าจอคอยให้กำลังใจเด็กๆ จาก Produce 48 ได้ไม่วางตา

 

 

Soyou – Vocal Trainer

โซยู หรือ คังจีฮยอน อดีตสมาชิกวง Sistar กรรมการสุดโหดที่มีเสียงแหบสุดเซ็กซี่เป็นเอกลักษณ์ เธอเป็นหนึ่งในนักร้องเสียงหลักของวง และยังมีท่าเต้นสุดเซ็กซี่ ซึ่งเธอสร้างผลงานได้ดีไม่มีตก

 

 

Lee Hong Gi – Vocal Trainer

อีฮงกิ หนึ่งในสมาชิกวง FT Island วงในตำนานที่เราคุ้นหูกันดี และโด่งดังจนออกซิงเกิลเดี่ยวที่ญี่ปุ่น ทำให้เขาเป็นหนึ่งในกรรมการที่เข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของสองประเทศมากที่สุด

 

 

Cheetah – Rap Trainer

ชีตาร์ สาวขาแรปที่แซ่บที่สุด การันตีด้วยการชนะเวทีประกวด Unpretty Rapstar และต่อมาได้เซ็นสัญญาภายใต้สังกัด C9 Entertainment

 

 

Bae Yoon Jeong – Dance Trainer

แบยุนจอง ครูสาวขาโหดที่ปากร้ายแต่ใจดี ที่มาพร้อมประสบการณ์ของเธอกับการออกแบบท่าเต้นให้กับศิลปินดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Kara, Brown Eyed Girls และ T-ara แต่ถึงเธอจะดุมากเพียงใด สุดท้ายนักเรียนทุกคนก็ยังรักเธอ

 

 

Choi Young Jun – Dance Trainer

ชเวยองจุน ครูสอนเต้นที่ใจดี มีดีกรีเป็นคนออกแบบท่าเต้นให้วงบอยแบนด์ชื่อดังอย่าง Wanna One และ BTS มีพูดตรงๆ บ้าง แต่ก็มีรอยยิ้มส่งให้นักเรียนเสมอ

 

 

May J Lee – Dance Trainer

เมย์เจลี อีกหนึ่งเทรนเนอร์สอนเต้นที่โด่งดังมาจากการเปิดสตูดิโอสอนเต้นชื่อ 1MILLION Dance Studio เราอาจจะคุ้นหน้าเธอกับเพลง All I Wanna Do ของ Jay Park ที่ได้เธอมาเต้นประกบคู่ นับว่าฝีมือเธอมีไม่น้อยเลยทีเดียว

 

และนี่คือโฉมหน้าของเด็กสาวทั้ง 96 คน

 

 

รักใครชอบใครก็สามารถเชียร์กันได้เลย ไม่จำกัดว่าเราจะชอบได้แค่คนเดียว แต่น่าเสียดายตรงที่การโหวตผ่านเว็บไซต์สามารถทำได้เฉพาะคนเกาหลีใต้เท่านั้น ประเทศอื่นอด แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังส่งแรงใจและเอาใจช่วยในความตั้งใจของน้องๆ กันได้ผ่าน www.viu.com ซับไตเติลภาษาไทย (สำหรับสมาชิกพรีเมียม) ทุกวันอาทิตย์

 

Photo: Mnet 프로듀스48(PRODUCE48), Produce 48 Thailand Fanpage

อ้างอิง:

• produce48.mnet.com/pc/training