สุดสัปดาห์นี้ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ชวนคุณไปชมการแสดงดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์เพื่อน้อมรำลึกและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยคณาจารย์จากคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และเยาวชนที่เคยผ่านการฝึกอบรมค่ายดนตรีของโครงการคีตราชา โปรมูสิกา จูเนียร์ จาก 5 รุ่นที่ผ่านมา ฟรีตลอดทั้งงาน โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่มีข้ออ้างอะไรเหมาะสมเพียงพอให้คุณปฏิเสธ 

ก่อนจะล็อกคิววันที่ 12-13 ตุลาคมนี้ เวลา 15.00-16.30 น. เพื่อไปชม ‘คีตราชา: โปรมูสิกา จูเนียร์ รียูเนี่ยน คอนเสิร์ต’ ที่ควอเทียร์ แกลเลอรี ชั้น M ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ เราอยากให้คุณได้เห็นความมานะพยายามของเยาวชนไทยที่จะขึ้นไปแสดงดนตรีบนเวทีนี้ 

เพราะนอกจากนักดนตรีมืออาชีพที่จะร่วมขับกล่อมบทเพลงพระราชนิพนธ์ เหล่าเยาวชนมากฝีมือบนเวทีนี้ล้วนแล้วแต่ผ่านการเคี่ยวกรำฝีมือการเล่นดนตรีจากโครงการคีตราชา โปรมูสิกา จูเนียร์ ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมศักยภาพของผู้มีความสามารถด้านดนตรี เป็นค่ายฝึกอบรมดนตรีที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้เรียนรู้ทางด้านดนตรีคลาสสิก โดยจะคัดเลือกเด็กจากภูมิภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้ เรียกว่าแต่ละรุ่นจะได้ฝึกฝนฝีมือทางด้านดนตรี ทั้งเพลงคลาสสิกและเพลงพระราชนิพนธ์ โดยอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถทั้งไทยและต่างประเทศ           

มิวสิค-ธัญชิศา เรื่องลือ อายุ 19 ปี

ชั้นปีที่ 2 คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 

มิวสิค-ธัญชิศา เรื่องลือ นักศึกษาปี 2 คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อายุ 19 ปี หนึ่งในสมาชิกของค่าย กล่าวว่า “การเข้าค่ายในโครงการนี้ทำให้หนูได้เรียนรู้การฝึกซ้อมดนตรีแบบเข้มข้น ได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้น หนูเล่นเครื่องดนตรีเชลโล อาจารย์ก็จะคอยแนะนำอย่างใกล้ชิด ช่วยส่งเสริมให้เรากระตือรือร้น ทำความเข้าใจในโน้ตดนตรีคลาสสิกที่มีความยากให้กลายเป็นเรื่องสนุกได้ และการได้ฝึกวินัยแบบนักดนตรีอาชีพก็ทำให้รู้จักรับผิดชอบมากขึ้น” 

โฟน-เทวชัย ม่วงสุข อายุ 18 ปี

ชั้นปีที่ 1 คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

ในขณะที่ โฟน-เทวชัย ม่วงสุข อายุ 18 ปี ชั้นปีที่ 1 คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มองว่าการเล่นดนตรีคลาสสิกเปรียบเสมือนการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เหมือนการนำภาษาศาสตร์และคณิตศาสตร์มารวมกัน “เชลโลคือเครื่องดนตรีที่ผมชอบที่สุด เวลาเล่นแต่ละเพลงต้องใช้ความคิดเยอะ มีจุดหัก จุดเชื่อม จุดประสาน โดยเฉพาะเพลงพระราชนิพนธ์ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงแรกๆ ที่ผมได้ฟัง เช่น ลมหนาว, แว่ว ซึ่งในเพลงพระราชนิพนธ์หลายๆ เพลงมีท่วงทำนองและเนื้อเพลงที่เป็นพลังและกำลังใจในการใช้ชีวิต การได้ฟังเพลงพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 9 ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจ” 

รวงข้าว-สุประวีณ์ จันทร์สว่าง อายุ 18 ปี

ชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เด็กในค่ายหลายคนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน รวงข้าว-สุประวีณ์ จันทร์สว่าง อายุ 18 ปี ชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพลงแรกที่เธอเริ่มเล่นไวโอลินคือเพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ รู้สึกว่าทุกครั้งที่ได้เล่นเพลงนี้เหมือนรัชกาลที่ 9 พระราชทานพรให้เรา “เพลง พรปีใหม่ เป็นเพลงในดวงใจ พอได้บรรเลงเพลงนี้เหมือนกำลังได้รับพรจากพระองค์ท่าน อีกเพลงที่ชอบคือเพลง ยิ้มสู้ เพราะเพลงนี้พระองค์พระราชนิพนธ์เพื่อให้กำลังใจ หนูเองรู้สึกผูกพันกับเพลงพระราชนิพนธ์มาก เพราะวงออร์เคสตราที่ภาคใต้ที่หนูเคยร่วมวงมีคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติประจำปี จึงทำให้เราได้มีโอกาสเล่นเพลงพระราชนิพนธ์ทุกปี”    

‘คีตราชา: โปรมูสิกา จูเนียร์ รียูเนี่ยน คอนเสิร์ต’ ในครั้งนี้จึงถือเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ของตัวแทนเยาวชนตั้งแต่รุ่นที่ 1 จนรุ่นที่ 5 ที่ร่วมใจกันถ่ายทอดเพลงพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 9 โดยแบ่งการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์เป็น 2 ช่วง 

ช่วงที่ 1 บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์โดยวงดนตรีเครื่องสายจากเยาวชน โปรมูสิกา จูเนียร์ รุ่นแรกถึงรุ่นปัจจุบัน ร่วมกับคณาจารย์จากคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จำนวน 10 เพลง ได้แก่ Alexandra (อเล็กซานดรา), Love in Spring (เลิฟ อิน สปริง), Royal Marines March (รอยัล มารีน มาร์ช), Still on My Mind (สติล ออน มาย มายด์), Magic Beam (เมจิก บีม), Old Fashioned Melody (โอล์ด แฟชั่น เมโลดี้), Love Story (เลิฟ สตอรี), Dream Island (ดรีม ไอส์แลนด์), New Year Greeting (นิว เยียร์ กรีทติ้ง) และ มาร์ชราชวัลลภ Royal Guard March (รอยัล การ์ด มาร์ช) โดยมีศิลปินรับเชิญคือ โก้ มิสเตอร์แซกแมน มาร่วมบรรเลง 3 เพลง

เบนซ์-ธนภรณ์ ลาภส่งผล อายุ 18 ปี

คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

“ในฐานะนักดนตรีคนหนึ่ง ทุกครั้งที่ได้เล่นเพลงพระราชนิพนธ์ หนูรู้สึกภูมิใจและคิดถึงพระองค์ท่านมากค่ะ” ถ้อยคำเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหมายที่บ่งบอกถึงความรู้สึกของ เบนซ์-ธนภรณ์ ลาภส่งผล เยาวชนวัย 18 ปี จากคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิต “ดีใจที่มีโอกาสได้เล่นเพลงที่เราฟังมาตั้งแต่เด็กจนโต ส่วนตัวรู้สึกประทับใจเพลง ใกล้รุ่ง มากค่ะ ได้รู้จักเพลงพระราชนิพนธ์นี้จากการเล่นดนตรีไทย ตอนนั้นหนูเล่นขลุ่ยเพียงออ พอเล่นก็รู้สึกชอบเพลงนี้มากแล้ว แต่พอได้มาเล่นดับเบิลเบสซึ่งเป็นเครื่องดนตรีคลาสสิกก็ยิ่งทำให้เรารักเพลงพระราชนิพนธ์นี้มากขึ้นไปอีกค่ะ”

ช่วงที่ 2 เป็นการแสดงสร้างสรรค์จากเยาวชนในโครงการร่วมกับนักดนตรีและศิลปินรับเชิญ ได้แก่ พินต้า-ณัฐนิช รัตนเสรีเกียรติ, อ๊ะอาย-กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ และฉัฏฐ์-ฉัฏฐ์วรรณ ทีปสุวรรณ โดยผสมผสานการร้องเพลงและการแสดงเข้าด้วยกัน จำนวน 5 เพลง 

“หนูภูมิใจมากค่ะ และคิดว่าทุกคนในค่ายนี้ก็ต้องภูมิใจเช่นกัน เราได้เป็นตัวแทนของเยาวชนที่ได้มาบรรเลงบทเพลงของพระองค์ เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต เพราะว่าทุกบทเพลงเพราะมากและมีความหมายที่ลึกซึ้ง อยากชวนทุกคนให้ลองฟังดนตรีด้านนี้กัน มาร่วมรับชมรับฟัง ‘คีตราชา: โปรมูสิกา จูเนียร์ รียูเนี่ยน คอนเสิร์ต’ กันเยอะๆ นะคะ รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอนค่ะ” รวงข้าวกล่าวปิดท้าย

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์