×

จากคลุมผ้าแดงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สู่ศาลหลักเมือง ชุมนุมราษฎร ให้เวลา 7 วัน ปล่อยตัว 4 แกนนำราษฎร

14.02.2021
  • LOADING...
ม็อบ 13 กุมภา

วันนี้ (13 กุมภาพันธ์) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มราษฎรนัดหมายการชุมนุม ‘นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน’ เพื่อแสดงพลังสื่อสารถึงรัฐบาล และเป็นการกลับมาชุมนุมกันอีกครั้งในรอบหลายเดือน หลังกลุ่มราษฎรพักการเคลื่อนไหวในช่วงปลายปี 2563 และเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

 

การชุมนุมในวันนี้ เริ่มต้นเมื่อเวลา 15.00 น. ตามที่ทางกลุ่มนัดหมาย การ์ดเครือข่ายราษฎรเข้ามาดูแลความเรียบร้อย และจัดพื้นที่ชุมนุม โดยปิดถนนราชดำเนินฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา และมีการนำรถบรรทุกเครื่องขยายเสียงเข้าพื้นที่ ก่อนที่ทางตำรวจจะมีการประกาศให้ยุติการชุมนุม เนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อ

 

ขณะเดียวกันมีการนำผ้าสีแดงผืนใหญ่มากางลงบนถนน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมกันเขียนข้อความที่ต้องการสื่อสารลงบนผืนผ้า ก่อนที่ ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก จะประกาศให้มวลชนขึ้นไปรื้อกระถางต้นไม้ บริเวณฐานของอนุสาวรีย์ออก เพราะเป็นอนุสาวรีย์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะนำต้นไม้ส่วนหนึ่งมาจัดเรียงใหม่เป็นข้อความว่า ‘112’

 

จากนั้นในเวลา 18.36 น. อรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำราษฎร ประกาศบนรถเครื่องเสียงให้มวลชนเคลื่อนขบวนไปยังศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร ใกล้กับกระทรวงกลาโหม เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการเคลื่อนไหว ‘นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน’ จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และขอให้ศาลหลักเมืองอยู่ข้างราษฎร

 

ต่อมาในเวลา 20.00 น. ครูใหญ่-อรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมด้วย ณัฏฐธิดา มีวังปลา, ชนินทร์ วงษ์ศรี และ เบนจา อะปัญ เป็นตัวแทนมวลชน เข้าไปภายในศาลหลักเมืองตามที่ยื่นข้อเสนอ โดยเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ตัวแทนเข้าไปรวม 4 คน โดยมีตัวแทนสื่อมวลชนสองแห่งเข้าไปเป็นพยานในการทำกิจกรรมด้านในด้วย

 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นข้อเสนอจากแกนนำกลุ่มราษฎรให้ดับไฟบนรถควบคุมฝูงชน โดยให้เวลาในการดับไฟ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบสนอง จึงมีการเคลื่อนตัวของการ์ดไปยังหน้าแนวกั้น กระทั่งมีการปะทะกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขอให้แกนนำกลับมาเจรจากันอีกครั้ง และยอมดับไฟในท้ายที่สุด

 

ต่อมาเวลา 20.07 น. ตัวแทนแกนนำกลุ่มราษฎรได้ทำกิจกรรมสักการะศาลหลักเมืองเสร็จสิ้นแล้ว และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ที่เข้าไปสักการะศาลหลักเมืองเพราะขอให้ปกป้องคุ้มครองราษฎร ในการต่อสู้เพื่อสิทธิที่ควรจะเป็น และหลังจากนี้จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเพื่อนๆ ที่ถูกจับกุม โดยให้เวลาเจ้าหน้าที่ 7 วัน หากยังไม่มีการปล่อยตัว 4 แกนนำ พริษฐ์ ชิวารักษ์, อานนท์ นำภา, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ที่ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ กลุ่มราษฎรจะกลับมาชุมนุมใหญ่อีกครั้ง

 

เวลา 20.20 น. ครูใหญ่ได้ประกาศยุติการชุมนุม และให้มวลชนทยอยเดินทางกลับบ้าน

 

ขณะที่หลังประกาศยุติการชุมนุมโดยแกนนำ ปรากฏว่ามีมวลชนบางส่วนยังคงปักหลักชุมนุมต่อ เจ้าหน้าที่ประกาศให้มวลชนแยกย้ายกันกลับบ้านภายใน 30 นาที หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ประกาศให้สื่อเข้าไปอยู่หลังแนวของเจ้าหน้าที่ และเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ของผู้ชุมนุม

 

สถานการณ์เริ่มตึงเครียด มีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นหลายครั้งต่อเนื่อง ชุดควบคุมฝูงชนเข้าจับกุมมวลชน มีรายงานจาก พ.ต.อ. อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ว่าเบื้องต้นมีผู้ถูกจับกุมประมาณ 11 ราย และจะนำไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1

 

ขณะที่วันนี้ พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. ระบุว่า วันนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนของกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และพื้นที่ใกล้เคียงไว้ 2 กองร้อย และมีกองร้อยตำรวจหญิงควบคุมฝูงชนอีก 1 กองร้อย และยังได้จัดเตรียมกำลังไว้ในกรณีที่จำเป็น หรือต้องใช้กำลังดูแลฉุกเฉินอีก 4 กองร้อย โดยมีการปรับเปลี่ยนกำลังตามรูปแบบ และสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้

 

ม็อบ 13 กุมภา ม็อบ 13 กุมภา ม็อบ 13 กุมภา ม็อบ 13 กุมภา ม็อบ 13 กุมภา ม็อบ 13 กุมภา ม็อบ 13 กุมภา ม็อบ 13 กุมภา ม็อบ 13 กุมภา

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising