ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (13 เมษายน) คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชน ในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีมติแบ่งกลุ่มคณะทำงาน 5 ด้าน เพื่อหาข้อสรุป รวมถึงมาตรการเพิ่มเติม เพื่อช่วยภาคเอกชน ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
สำหรับคณะทำงาน 5 ด้าน ประกอบด้วย กลุ่มมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ประกอบด้วย
- สมาคมธนาคารไทย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
- กลุ่มมาตรการเพื่อการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย หอการค้าไทย
- กลุ่มมาตรการเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์
- กลุ่มมาตรการเพื่อภาคเกษตร ประกอบด้วย สภาเกษตรกรแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์
- กลุ่มมาตรการเพื่อการแก้ไขปัญหาด้วยดิจิทัล (Digital Solution) ประกอบด้วย ศุภชัย เจียรวนนท์ ซึ่งจะได้พิจารณาคู่ขนานกันไป เพื่อประกอบการพิจารณาในครั้งต่อไปด้วย
สำหรับข้อสรุปเบื้องต้นในวันนี้ สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มเติม เช่น การปรับลดค่าไฟฟ้า 5% ทั่วประเทศ และลดค่า FT ตามราคาน้ำมัน เสนอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม สามารถค้ำประกันได้เพิ่มเติมถึง 80% ให้กับผู้ประกอบการ SMEs
ลดเงินสมทบประกันสังคมขานายจ้างเหลือ 1% เท่ากับลูกจ้าง รวมถึงให้สามารถนำค่าใช้จ่ายสำหรับป้องกันโควิด-19 มาหักค่าใช้จ่ายได้ถึง 3 เท่า
ด้านแรงงาน เสนอให้รัฐช่วยจ่ายเงินเดือนสำหรับภาคอุตสาหกรรม ภาคอื่นที่ได้รับผลกระทบ หรือกลุ่มที่เงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท โดยให้รัฐช่วยจ่ายเงินเดือนในสัดส่วน 50% หรือประมาณ 7,500 บาท ขณะที่นายจ้างจ่าย 23% และลูกจ้างยอมลดค่าจ้าง 25% รวมถึงให้สามารถนำค่าใช้จ่ายด้านค่าจ้างแรงงานในช่วงโควิด-19 มาหักภาษีได้ 3 เท่า
รวมทั้งด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การส่งมอบงาน ที่ไม่สามารถส่งมอบงานได้ทัน หรือก่อสร้างได้ทัน ให้สามารถเลื่อนสัญญาได้ 4 เดือน รวมทั้งยกเว้นภาษีนิติบุคคล 2 ปี ให้กับ SMEs ทั้งระบบ ขณะเดียวกัน เสนอให้จ้างงานเป็นรายชั่วโมงได้ หรือลดเวลาการจ้างงานไม่ต้องถึง 8 ชั่วโมงได้
กลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีหลายโครงการผู้รับเหมาที่ก่อสร้างอยากให้รัฐเร่งเบิกจ่าย จะช่วยเสริมสภาพคล่องได้ เรื่องลดหย่อนภาษี ลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการจำนอง โอน เปลี่ยนมือ บ้านมือสอง ฯลฯ
ขณะที่แรงงานต่างชาติ หรือกลุ่ม Work Permit ที่วีซ่าจะหมดอายุ อยากให้ขยายไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 จากเดิมภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ รวมถึงขอขยายเพดานลดหย่อนภาษีการกุศลจากปัจจุบัน 2% จากกำไรสุทธิ โดยปีนี้เสนอให้ไม่มีเพดานได้หรือไม่ เพื่อเปิดทางให้บริจาคเพิ่มขึ้นได้
กลินท์กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์แรงงาน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยืดเยื้อ จะส่งผลให้แรงงานทั้งระบบตกงานถึง 10 ล้านคน จากปัจจุบันที่คาดว่ามีแรงงานตกลงทั้งหมด 7 ล้านคน
สำหรับข้อเสนอทั้งหมดนั้น คณะทำงานจะร่วมกันประเมินอีกครั้งในวันที่ 20 เมษายนนี้ ซึ่งบางข้อเสนอจะสามารถเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติได้ทันที
ทั้งนี้ สศช. ได้เปิดพื้นที่สาธารณะในการรับฟังความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ร่วมด้วยช่วยคิด ซึ่งจะรวบรวมข้อเสนอและนำเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อไปด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
รายงาน: ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com