วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ยอมรับกระแสข่าวพรรคประชาชนจะร่วมกันใช้สิทธิตามมาตรา 236 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้าชื่อกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของสมาชิกที่มีอยู่ของรัฐสภา เพื่อยื่นถอดถอนประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จากกรณีคลิปหลุดว่าเป็นเรื่องจริง
พริษฐ์ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นมติของพรรคประชาชนแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ เนื่องจาก สส. ของพรรคมีจำนวน 141 คนโดยประมาณ ถือว่าเป็นจำนวนเฉียดฉิว พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้ไม่ใช่การเอาคืน แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ สส. ในการเข้าชื่อเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
พริษฐ์ระบุด้วยว่า ในข้อร้องเรียนที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์หน้า ไม่ได้มีแค่คลิปวิดีโอระหว่าง วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. ตามที่ปรากฏ แต่ยังมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในส่วนอื่นด้วย ซึ่งพรรคประชาชนรวบรวมข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง
“ถึงแม้ไม่มีคดี 44 สส. ก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำ เพราะมีหลักฐาน และไม่ใช่แค่พรรคประชาชนทำได้เท่านั้น แต่เป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภาทุกคน ทุกฝ่าย ดังนั้นถ้ามี สส. พรรคอื่น และ สว. เห็นตรงกันว่า ปัญหาทุจริตเป็นเรื่องสำคัญ ก็ใช้กลไกนี้ในการตรวจสอบ และสามารถร่วมลงชื่อสนับสนุนได้ ย้ำว่าเราไม่ได้คิดถึงผลกระทบต่อคดี หรือหากพรุ่งนี้คดี 44 สส. ถูกยกไปหมด เราก็ยังยืนยันในการทำหน้าที่ตรวจสอบ” พริษฐ์กล่าว
ในทางคู่ขนาน พรรคประชาชนยังยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 ด้วย ซึ่งว่าด้วยสมาชิกรัฐสภาหากต้องการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องยื่นเรื่องให้ประธานรัฐสภาใช้ดุลพินิจในการพิจารณาว่าสมควรส่งเรื่องไปที่ศาลฎีกาเพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนพิเศษหรือไม่ ซึ่งจะทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงที่จะฮั้วกัน
ส่วนพรรคประชาชนจะมีการยื่นตรวจสอบประธานรัฐสภาด้วยหรือไม่นั้น พริษฐ์กล่าวว่า ขณะนี้พรรคกำลังหารือกันถึงความเป็นไปได้ เพราะกลไกตามมาตรา 236 เป็นกลไกสำหรับการร้องเรียน ป.ป.ช. โดยเฉพาะ
