สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์ระบุ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรทรงแต่งตั้งให้ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กส์ พระอนุชา (น้องชาย) ในพระองค์เอง ดำรงพระอิสริยยศ ‘ดยุกแห่งเอดินบะระ’ พระองค์ใหม่ ต่อจากเจ้าชายฟิลิป พระราชบิดาผู้ล่วงลับ
โดยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้พระราชทานพระอิสริยยศดังกล่าวให้กับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เนื่องในวันประสูติครบรอบ 59 พรรษา เมื่อวานนี้ (10 มีนาคม) ส่งผลให้ โซฟี เคาน์เตสแห่งเวสเซ็กซ์ พระชายาในพระองค์ ดำรงพระอิสริยยศดัชเชสแห่งเอดินบะระไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งดยุกแห่งเอดินบะระนี้จะไม่ได้รับการส่งต่อทางสายเลือดหรือพันธุกรรม ดังนั้นเมื่อเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเอดินบะระ สิ้นพระชนม์ พระอิสริยยศนี้จะไม่ตกไปยังพระโอรสและพระธิดาของพระองค์ หากแต่สามารถส่งมอบให้กับสมาชิกอาวุโสพระองค์อื่นๆ ในราชวงศ์อังกฤษได้
ในขณะที่พระอิสริยยศเดิมของพระองค์อย่างเอิร์ลแห่งเวสเซ็กส์ จะตกไปยัง เจมส์ ไวเคานต์เซเวิร์น พระโอรสวัย 15 ชันษาของพระองค์ ในขณะที่พระธิดาในพระองค์อย่าง เลดีลูอีส วินด์เซอร์ จะยังคงใช้พระนามและพระยศตามเดิม
ช่วงปลายปี 2022 รัฐสภาสหราชอาณาจักรเดินหน้าแก้ไขกฎหมาย โดยเพิ่มพระนามของเจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระกนิษฐา (น้องสาว) และพระอนุชาในพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งรัฐ ซึ่งสามารถปฏิบัติพระกรณียกิจแทนพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าทั้งสองพระองค์จะทรงมีบทบาทมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก ไม่สามารถปฏิบัติพระกรณียกิจในฐานะสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์อังกฤษได้อีกต่อไป ตั้งแต่เข้าไปพัวพันกับคดีล่วงละเมิดทางเพศ
โดยพระอิสริยยศ ‘ดยุกแห่งเอดินบะระ’ นี้ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1726 ตามพระราชประสงค์ในพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งบริเตนใหญ่ จากราชวงศ์ฮันโนเวอร์ ที่ต้องการพระราชทานพระอิสริยยศให้แก่เจ้าชายเฟรเดอริก พระราชนัดดา (หลานชาย) ในพระองค์ ก่อนที่จะตกมาถึงเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดดังเช่นในปัจจุบัน
ภาพ: Jane Barlow / Pool / AFP
อ้างอิง:
