โครงการดีๆ ที่ทั้งช่วยสร้างสีสัน กระตุ้นให้เกิดความคึกคัก สร้างสรรค์ ในแวดวงธุรกิจ และยังมีส่วนช่วยในการช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไทย ทั้งยังมีบทบาทในการสนับสนุนผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี อย่าง Prime Minister’s Export Award กำลังจะกลับมาอีกครั้ง และสำหรับในปีนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ วางแผนจะยกระดับความเข้มข้นขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Better Vision Brighter Future: เปิดมุมมองใหม่ ขับเคลื่อนธุรกิจไทย มุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต อย่างเต็มภาคภูมิ’ เพื่อเป็นการขานรับเศรษฐกิจยุคใหม่ ทั้งยังเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจอย่างการเปิดเวทีเสวนา ดึง 4 บริษัทต้นแบบเจ้าของรางวัล PM’s Export Award มาร่วมแชร์ไอเดียจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจ แนะแนวทางพัฒนาธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจอยากรู้เกี่ยวกับรางวัลนี้กันให้มากขึ้น เราขออาสาพาทุกคนไปพบกับความน่าสนใจของ Prime Minister’s Export Award 2023 ในปีล่าสุดนี้กัน
โล่เกียรติยศนับจากอดีตของ Prime Minister’s Export Award
รางวัลที่มีคุณูปการช่วยขับเคลื่อนธุรกิจส่งออกไทยมานานกว่า 3 ทศวรรษ
ในปี 2023 รางวัล PM’s Export Award 2023 ได้มีการปรับหลักเกณฑ์ยกระดับ
ให้สอดรับต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก และกระตุ้นทิศทางของภาคธุรกิจการส่งออกไทย
ผลักดันผู้ประกอบการไทยพัฒนาขีดความสามารถ พร้อมแข่งขันสู่เวทีโลก…ชูเป้าการค้าไทยติด Top 5 ของเอเชีย
ทาง DITP เผยว่า โจทย์หลักของ Prime Minister’s Export Award ในปี 2023 มีวิสัยทัศน์สำคัญในการเดินหน้าผลักดันให้บรรดาผู้ประกอบการไทยพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถพร้อมแข่งขันสู่เวทีโลก รวมทั้งการสร้างภาพลักษณ์ให้ภาคธุรกิจไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมสนับสนุนการเปิดตลาดส่งออกไปยังเวทีโลก โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศตั้งเป้าสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยให้เป็น 1 ใน 5 ของเอเชียภายในปี 2570 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ‘ตลาดนำการผลิต’ และการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบการไทยของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเพื่อการนี้ ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงได้จัดรางวัล Prime Minister’s Export Award หรือ PM’s Export Award 2023 เพื่อสร้างแรงจูงใจ และสร้างกำลังใจในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ว่าจะเป็น Start-up, SMEs, Micro SMEs และอื่นๆ เพื่อให้ภาคธุรกิจได้รับรู้ว่าภาครัฐให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคธุรกิจในทุกระดับ
“อย่างไรก็ดี ในปีนี้ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจการค้าโลก ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวเพื่อตอบสนอง New Economy หรือเศรษฐกิจยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ BCG Economy สู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยรางวัล Prime Minister’s Export Award เป็นอีกหนึ่งการดำเนินงานสำคัญของกรมฯ เป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่สะท้อนความน่าเชื่อถือของภาคธุรกิจส่งออกไทย ที่มีกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศที่จะตอบสนองกับความท้าทายใหม่ๆ ได้อย่างมีศักยภาพ ทั้งยังสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก อีกทั้งยังจุดประกายแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ได้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจของตนเองให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย” ภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย
Better Vision Brighter Future: เปิดมุมมองใหม่ ขับเคลื่อนธุรกิจไทยมุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต อย่างเต็มภาคภูมิ
“เพื่อเป็นการต้อนรับการก้าวสู่ทศวรรษใหม่ ปีที่ 31 จุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ก้าวสู่การเป็นผู้ส่งออกที่มีศักยภาพ ในปีนี้รางวัล PM’s Export Award 2023 จึงดำเนินการภายใต้แนวคิด ‘Better Vision Brighter Future: เปิดมุมมองใหม่ ขับเคลื่อนธุรกิจไทยมุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต อย่างเต็มภาคภูมิ’
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานอันยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ มีผู้ได้รับรางวัลดังกล่าวมาแล้วรวมจำนวนทั้งสิ้น 784 รางวัล จาก 257 บริษัท และล่าสุดในปีที่ผ่านมา ทางกรมฯ ได้มีการทบทวนหลักเกณฑ์เพื่อยกระดับรางวัลให้สอดรับต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก และแนวทางการพัฒนาภาคการส่งออกไทย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเปลี่ยนจากภาคการผลิตสินค้ามาสู่ภาคบริการมากขึ้น โดยนำแนวคิดเรื่องนวัตกรรมและการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน (Environmental, Social and Governance: ESG) มาเพิ่มเป็นน้ำหนักคะแนนของเกณฑ์การตัดสินแต่ละสาขารางวัล ซึ่งประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของประเทศ
ในงานแถลงข่าวที่เพิ่งผ่านมา มีวิทยากรพิเศษจาก 4 บริษัท ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล PM’s Export Award จากปีก่อนหน้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การทำธุรกิจ และประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการ พร้อมเปิดมุมมองใหม่ของการทำธุรกิจ เพื่อเป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจไทย มุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต
โดยเมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งมีการจัดงานแถลงข่าวการประกวด ซึ่งมีไฮไลต์อยู่ที่การเชิญวิทยากรพิเศษจาก 4 บริษัท ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล PM’s Export Award จากปีที่ผ่านมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การทำธุรกิจ และประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการ พร้อมเปิดมุมมองใหม่ของการทำธุรกิจ เพื่อเป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจไทย มุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต โดยวิทยากรพิเศษดังกล่าว ประกอบด้วย
- โกสินทร์ วิระพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด ผู้ผลิตของเล่นไม้สำหรับเด็กจากมุมมองความยั่งยืน รายแรกของโลกที่เปลี่ยนไม้ยางพาราที่หมดอายุการให้น้ำยาง และผงขี้เลื่อยให้กลายเป็นวัสดุใหม่ PlanWood มาใส่ความคิดสร้างสรรค์จนกลายเป็นของเล่นไม้จากยางพาราที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ภายใต้แบรนด์ PlanToys
- นิติพันธุ์ ดารกานนท์ กรรมการ บริษัท โซไนต์ อินโนเวทีฟ เซอร์เฟสเซส จำกัด บริษัทผู้คิดค้นนำวัสดุที่เหลือทิ้งจากภาคเกษตร ไม่ว่าจะแกลบข้าว กะลามะพร้าว และผักตบชวา มาทำเป็นสิ่งที่มีคุณค่า Material Development แปรรูปเป็นของใช้ในบ้าน ของตกแต่งบ้านในดีไซน์ที่สวยงาม พร้อมชูคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการใช้งานทนทาน มีมาตรฐาน และยั่งยืน
- วราภรณ์ มนัสรังษี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-เฟรช จำกัด บริษัทที่ประสบความสำเร็จจากการส่งออกมะพร้าวน้ำหอมผลสดเป็นบรรจุภัณฑ์ในตัวเอง เพื่อสร้างความยั่งยืนจากการทำวิจัยนวัตกรรม เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคมะพร้าวน้ำหอมที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น ภายใต้ชื่อ ‘Coco Thumb’
- อัจฉรา ปู่มี กรรมการผู้จัดการบริษัท แพค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้สร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเครื่องทำน้ำร้อน และเครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน จากจุดเด่นนำพลังงานที่สูญเปล่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ และลดปริมาณการใช้พลังงาน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน (Sustainability)
รางวัล PM’s Export Award 2023 แบ่งออกเป็น 7 ประเภทสาขารางวัลประกอบด้วย
- รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม Best Exporter
- รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม Best Thai Brand โดยจำแนกระดับและประเภทแบรนด์ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
2.1 ระดับ Existing Brand แบรนด์ที่มีมายาวนาน แบ่งเป็น Corporate Brand และ Product Brand
2.2 ระดับ Emerging Brand แบรนด์เกิดใหม่ที่มีการจดทะเบียนนิติบุคคล และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในช่วง 1-4 ปี
- รางวัลธุรกิจ BCG ส่งออกยอดเยี่ยม Best BCG Exporter ซึ่งเป็นการปรับจากรางวัลสินค้าส่งเสริมนวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation) เพื่อให้สอดคล้องกับวาระแห่งชาติในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG
- รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) โดยมีการเพิ่มกลุ่มผลงานการออกแบบระบบบริการและแพลตฟอร์มดิจิทัล
- รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise) แบ่งออกเป็น 4 สาขา ประกอบด้วย
- สาขาโรงพยาบาล/ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง/คลินิกเฉพาะทาง (Health & Wellness) โดยเพิ่มจาก 1 สาขารางวัลเป็น 2 สาขารางวัล
- สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software)
- สาขาโลจิสติกส์การค้า (ELMA)
- สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing and Packaging) เพิ่มเป็น 2 สาขารางวัล
- รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) ซึ่งปีนี้มีการเพิ่มกลุ่มรางวัลเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
6.1 กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ที่มีการส่งออกด้วยตนเอง (Best OTOP)
6.2 กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ที่ยังไม่เคยส่งออกด้วยตนเอง แต่มีศักยภาพในการส่งออก (OTOP New Face Exporter)
- รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal)
ยกระดับรางวัลด้วยเกณฑ์ตัดสินอันแสนท้าทาย
ปีนี้กรมฯ ได้พัฒนาและยกระดับรางวัล Prime Minister’s Export Award ให้สอดรับกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ใน 5 มิติ ได้แก่
- เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Innovation & Technology)
- การออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ (Design & Creativity)
- การสร้างแบรนด์และการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Branding & Value Creation)
- การพัฒนาตามแนวคิดเศรษฐกิจ BCG (BCG Model)
- มีเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals (SDGs))
ทั้งนี้ ประเด็นที่ท้าทายดังกล่าวได้ถูกนำไปพัฒนาและปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสินรางวัลให้ครอบคลุมทั้ง 7 ประเภทสาขาของรางวัล PM’s Award Export ซึ่งทางกรมฯ เห็นว่าองค์กรธุรกิจยุคใหม่ควรแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และแนวทางการบริหารในด้านต่างๆ เช่น แนวทางหรือแผนงานด้าน BCG และ SDGs การลงทุนสำหรับการผลิตหรือเทคโนโลยีที่มีความยั่งยืน พลังงานสะอาด ด้านการวิจัยและพัฒนา รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม New Technology, New Material, Eco Material นอกจากนี้กรมฯ ยังต้องการส่งเสริมให้ Micro และ SMEs สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในรางวัลนี้มากขึ้น เช่น ธุรกิจ Start-up หรือ Emerging Brand ฯลฯ
สำหรับสิทธิประโยชน์ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล PM’s Export Award จะได้รับคือ การสนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ ของกรมฯ และพันธมิตร รวมทั้งจะได้รับการสนับสนุนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้ส่งออกในรูปแบบการเข้าร่วมสัมมนา การฝึกอบรมเชิงลึก รวมทั้งจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์ อาทิ ได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในฐานะผู้ได้รับรางวัลในสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถใช้ตราสัญลักษณ์ PM’s Export Award เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ผู้ประกอบการที่สนใจรางวัล Prime Minister’s Export Award 2023
สามารถสมัครรับการคัดเลือกได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคมนี้
สำหรับรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2566 (Prime Minister’s Export Award 2023 หรือ PM’s Export Award 2023) ปีที่ 31 จะจัดให้มีพิธีมอบรางวัลฯ โดยนายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ดังนั้นผู้ประกอบการในสาขาต่างๆ ที่สนใจเข้าร่วมสมัครรับคัดเลือกรางวัล สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2566 ที่ pmaward.ditp.go.th หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2136 5226, 0 2507 8290 (ในวันและเวลาราชการ)
รางวัล ‘Prime Minister’s Export Award’ เกียรติยศผู้ส่งออกไทย…ความภูมิใจระดับโลก
- รางวัล ‘Prime Minister’s Export Award’ จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2535 ถือเป็นรางวัลสูงสุดของรัฐบาลที่มอบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น สามารถประกอบธุรกิจจนประสบความสำเร็จในระดับโลก ช่วยขยายมูลค่าการค้าระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืน
- ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี มีผู้ประกอบการไทยจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จ สามารถพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้า จนได้รับรางวัล PM’s Export Award รวมแล้ว 784 รางวัล จาก 257 บริษัท ล้วนแล้วแต่เป็นตัวแทนความภาคภูมิใจของคนไทยในการผลิตสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล
- รางวัลในสาขา Best Exporter มีสุดยอดผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในแต่ละปีเฉลี่ย 5-9 รางวัล ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพวกเขาเหล่านั้นได้สร้างมูลค่าส่งออกสูงถึงกว่า 6 หมื่นล้านบาท! นับเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ และยังช่วยสร้างรายได้ สร้างความมั่นคงให้กับประเทศได้อย่างมากมาย