จอร์จ เวสตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท Primark เชนค้าปลีกยักษ์ใหญ่ด้านแฟชั่นจากไอร์แลนด์ ที่มีสาขากว่า 350 แห่งทั่วโลก ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษ โดยปกป้องอุตสาหกรรม Fast Fashion หรืออุตสาหกรรมการผลิตสินค้าแฟชั่นที่รวดเร็วในราคาต่ำ ซึ่งถูกมองว่าส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทำให้ผู้ซื้อใช้งานได้เพียงไม่นานก่อนจะต้องซื้อสินค้าใหม่ ไม่ต่างจากพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง
เวสตัน กล่าวอย่างมั่นใจว่าการช้อปปิ้งที่ร้านซึ่งจับต้องได้นั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระดับที่น้อยกว่าการช้อปปิ้งออนไลน์ ที่ก่อให้เกิดมลพิษจำนวนมากจากการขนส่งสินค้าจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน
ขณะที่เขายืนยันว่า Primark ซึ่งไม่มีร้านค้าในช่องทางออนไลน์ มี Supply Chain หรือกระบวนการผลิตและจำหน่ายสินค้า ตั้งแต่จัดหาวัตถุดิบไปจนถึงจัดส่งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
“เราห่างไกลจากการเป็นตัวปัญหา เราคือทางแก้ไข บริษัทของเราไม่ส่งสินค้าทางอากาศ เราส่งสินค้าทางเรือ ซึ่งมีการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจำที่ต่ำกว่า” เวสตัน กล่าว
ทั้งนี้ เวสตันปฏิเสธความกังวลที่ Primark จำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบบใช้แล้วทิ้ง โดยมองว่าลูกค้าของเขาไม่ได้ซื้อสินค้าไปเพื่อใส่เพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของเวสตัน ก่อให้เกิดคำถามจากผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ที่โต้แย้งว่าการช้อปปิ้งออนไลน์ ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการซื้อสินค้าที่ร้านจริงหรือ โดยทีมนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ของสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า เมื่อบริษัทได้รับออร์เดอร์จากช่องทางออนไลน์ ก็สามารถรวบรวมสินค้าทุกอย่างที่ต้องจัดส่งไว้ในรถบรรทุกคันใหญ่เพียงคันเดียวได้ ซึ่งจะช่วยลดการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจกได้ดีกว่าการที่รถของลูกค้าหลายๆ คัน ต้องเดินทางไกลเพื่อไปซื้อสินค้าที่ร้าน ยกเว้นในกรณีที่ลูกค้าปั่นจักรยานหรือเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
นักวิจัยยังพบว่า บริการขนส่งสินค้าที่รวดเร็ว (Ultra-Fast Delivery) ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้รถขนส่งสินค้าไม่ได้บรรทุกสินค้าจนเต็มรถเสมอไป ซึ่งทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์ก่อให้เกิดปริมาณก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น แต่ถึงกระนั้น การช้อปปิ้งที่ร้านค้าก็ยังมีแนวโน้มก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าช้อปปิ้งออนไลน์มากอยู่ดี
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
