×

ฟังเสียงแห่งความภาคภูมิใจในตัวเองที่ซ่อนอยู่ใน ‘Pride’ น้ำหอมกลิ่นใหม่จาก ‘Journal’ แบรนด์น้ำหอมไทยที่สะท้อนความเป็นไทยผ่านกลิ่นหอม [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
07.07.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • Journal แบรนด์น้ำหอมที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมและเรื่องราวความเป็นไทยผ่านกลิ่นหอมอย่างมีเอกลักษณ์
  • ตอกย้ำแบรนด์ที่เชื่อเรื่องความแตกต่างและหลากหลาย พร้อมยืนเคียงข้างคนไทย และเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์น้ำหอม ‘Pride’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘A Journey of Pride’ 
  • ความมุ่งมั่นของ Journal ไม่หยุดอยู่แค่การรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ แต่ยังต่อยอดไปสู่แคมเปญ Pride เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม
  • สนับสนุนความหลากหลายอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การรับสมัครพนักงานที่ไม่จำกัดเพศ, เปิดรับความหลากหลายทางศาสนา, การให้อิสระในการแต่งกาย และมีนโยบายให้สิทธิลาหยุดกรณีผ่าตัดแปลงเพศของคนข้ามเพศ

พูดกันตามตรง คงไม่มีใครนึกภาพออกหรอกว่า ‘ความเชื่อ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และเรื่องเล่าของไทย’ จะกลายมาเป็นน้ำหอมกลิ่นต่างๆ ได้

 

จนกระทั่ง ‘Journal’ แบรนด์น้ำหอมไทยถือกำเนิดขึ้น จากความเชื่อที่ว่า ‘กลิ่น’ สามารถถ่ายทอดวัฒนธรรมและเรื่องราวความเป็นไทย รวมถึงการนำเอากรรมวิธีการผลิตแบบภูมิปัญญาพื้นบ้านมาผสมผสาน จนได้กลิ่นน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์และติดทนนาน

 

เบื้องหลัง ‘กลิ่นหอม’ ที่สะท้อนความเป็นไทย 

 

จักรชลัช เกษจำรัส Chief Executive Officer หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ Journal พาเราย้อนความทรงจำกลับไปยังจุดตั้งต้น กว่าจะกลั่นความตั้งใจจนกลายมาเป็นแบรนด์น้ำหอมไทยที่มี ‘วัตถุดิบจากธรรมชาติ’ เป็นหัวใจสำคัญ

 

“ตอนเรียนจบผมเปิด Design Agency ด้วยความที่อยากหาสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นมาสร้างภาพลักษณ์ใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่า เพราะผมเชื่อว่าสินค้าไทยมีคุณภาพ ขาดแค่วิธีนำเสนอและวิธีทำธุรกิจ จนได้มาเจอลูกค้ารายหนึ่งที่มีความสามารถในการปรุงน้ำหอม ซึ่งปัจจุบันเป็นหุ้นส่วนสำคัญในบริษัท ตอนนั้นผมรู้สึกสนใจมาก เพราะน้ำหอมไทยที่เราผลิตได้เป็นน้ำหอมที่มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล แต่ส่วนใหญ่กลับถูกมองว่าเป็นน้ำหอมที่ถูกผสมเจือจางจากหัวน้ำหอมอื่นๆ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเห็นว่าคนไทยทำน้ำหอมคุณภาพดีและมีเอกลักษณ์ได้ เลยคุยกันว่าถ้าอย่างนั้นมาลองสร้างแบรนด์ใหม่กัน”

 

เริ่มจากคัดสรรสารตั้งต้นคุณภาพดีจากธรรมชาติมาผลิตเป็นน้ำหอม เพื่อให้นักปรุงน้ำหอมนำไปวิจัยและพัฒนากลิ่น โดยมีโจทย์ว่าทุกกลิ่นจะต้องเป็นกลิ่นที่เป็น Unisex สามารถใช้ได้ทุกคน รวมถึงการเลือกใช้ Essential Oil ที่สกัดจากพรรณไม้ ผลไม้ ดอกไม้ และสมุนไพรนานาชนิด

 

พิถีพิถันแม้กระทั่งกรรมวิธีการปรุง หยิบยกภูมิปัญญาการปรุงน้ำหอมของไทยอย่างน้ำอบ-น้ำปรุง มาผสมผสานกับเทคโนโลยีผลิตน้ำหอมสมัยใหม่ตามมาตรฐานระดับโลก เพื่อให้ได้น้ำหอมที่มีคุณภาพ

 

 

วิธีการออกแบบกลิ่นของ Journal ก็ไม่ธรรมดา จักรชลัชบอกว่าเขาต้องการหยิบความเป็นไทยที่อยู่รอบตัวมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นขนมไทย ตำนานผีไทย หรือแม้แต่เทศกาลต่างๆ ทำให้ Journal เป็นเหมือนบันทึกการเดินทางของใครสักคน ที่ไม่ว่าจะไปเจออะไรที่น่าสนใจก็สามารถถ่ายทอดเป็น ‘เรื่องเล่า’ สะท้อนเรื่องราวผ่านกลิ่นหอมได้ ทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จึงมักมีเรื่องราวความเป็นไทยซ่อนอยู่ อย่าง ‘กลิ่นสงกรานต์’ ประเพณีไทยที่เต็มไปด้วยความสนุก ความสดชื่น และความมีชีวิตชีวา ถูกปรุงออกมาจากส่วนผสมของดอกไม้ขาว ใบมินต์ ใบกระวาน ผสานไม้กฤษณาและไม้จันทน์หอม ให้กลิ่นพาคุณย้อนกลับไปยังความทรงจำแสนสุข หรือ ‘กลิ่นกุมาร’ สัญลักษณ์แห่งความสุขและความสนุกในวัยเด็ก ด้วยกลิ่นที่เต็มไปด้วยความสดใส ขี้เล่น และซุกซนของสละ เคล้ากลิ่นแป้งหอมเบาๆ

 

วิธีการคัดเลือกกลิ่นเพื่อนำมาถ่ายทอดเรื่องราวก็เป็นส่วนสำคัญที่น่าสนใจ จักรชลัชเล่าว่าทุกกลิ่นมีความหมาย ยกตัวอย่าง ‘กลิ่นนางรำ’ ทำหน้าที่เล่าเรื่องนางรำในยุคก่อนที่มีความเซ็กซี่ มั่นใจ ในขณะที่ร่ายรำเพื่อเอ็นเตอร์เทนคนดูก็รู้สึกผ่อนคลาย เพลิดเพลินไปกับการแสดง กลายเป็นแรงบันดาลใจของ Top Note กลิ่นเชอร์รี ตัวแทนของความมีชีวิตชีวา แต่ทว่าเซ็กซี่ มีเสน่ห์น่าดึงดูด ตามมาด้วย Middle Note กลิ่นกุหลาบ ตัวแทนของความสวยงามแห่งนาฏศิลป์ไทย ผสานกลิ่นดอกไม้ขาวที่ประดับบนชฎา ปิดท้ายด้วย Base Note จากกลิ่นของไม้กฤษณาและไม้จันทน์หอม ให้คุณซึมซับบรรยากาศของโรงละครและกลิ่นอายของไม้ที่สะสมประวัติศาสตร์แห่งการแสดงไว้มากมาย

 

“เวลาเราเล่าเรื่อง ทุก Note ต้องสื่อถึงความหมายที่ทำให้คนเข้าใจได้ทันทีเมื่อได้กลิ่น” จักรชลัชกล่าว 

 

‘A Journey of Pride’ เส้นทางการต่อสู้ สู่กลิ่นหอมของความภาคภูมิใจ 

 

นอกจากจะเชื่อว่า ‘กลิ่น’ สามารถเล่าเรื่องราวความเป็นไทยได้แล้ว Journal ยังเชื่อว่า ‘กลิ่น’ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจะนำเสนอตัวตนของคนคนนั้นออกมาได้มากขึ้น 

 

“ทุกคนล้วนมีความแตกต่าง และทุกความหลากหลายล้วนมีอัตลักษณ์และคุณค่าที่ต่างกัน ที่ผมเชื่อแบบนี้เพราะองค์กรเราเริ่มมาจากการเป็น Minority (ชนกลุ่มน้อย) แต่เป็นชนกลุ่มน้อยในแบบที่ต่างกัน อย่างหุ้นส่วนผมถูกครอบครัวและสังคมดูถูกและตัดสินมาตั้งแต่เด็กเพราะเป็น LGBTQIA+ หรือแม้แต่การทำแบรนด์น้ำหอมก็เช่นกัน เราโดนตัดสินว่าเป็นคนไทย ไม่สามารถทำน้ำหอมคุณภาพเทียบเท่าต่างชาติได้ ผมยังจำได้ว่าตอนเริ่มทำแบรนด์ใหม่ๆ ไปออกบูธที่ฮ่องกง ก็โดนคนมองแบบดูถูกเหยียดหยาม มันจึงกลายเป็นจุดยืนของแบรนด์ที่ยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอดว่า เราต้องการยืนเคียงข้างสนับสนุนความหลากหลายอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การรับสมัครพนักงานที่ไม่จำกัดเพศ, เปิดรับความหลากหลายทางศาสนา, การให้อิสระในการแต่งกาย และมีนโยบายให้สิทธิลาหยุดกรณีผ่าตัดแปลงเพศของคนข้ามเพศ เพื่อให้คนในองค์กรได้เป็นตัวเองได้อย่างอิสระ”

 

แนวคิดข้างต้นยังสะท้อนผ่านผลิตภัณฑ์ของ Journal ซึ่งจักรชลัชบอกว่าน้ำหอมของ Journal เป็นน้ำหอมไม่มีเพศ และใช้ได้ทุกโอกาส 

 

เพื่อให้จุดยืนในเรื่องนี้ชัดเจนขึ้น จักรชลัชเลือกเล่าเรื่องผ่านสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความแตกต่างได้ชัดเจนที่สุด นั่นก็คือ LGBTQIA+ เป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์น้ำหอม ‘Pride’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘A Journey of Pride’ บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของ LGBTQIA+ และส่งเสียงความภาคภูมิใจในตัวเอง พร้อมสะท้อนจุดยืนของแบรนด์ที่เชื่อในคุณค่าของคนทุกคน และสนับสนุนความหลากหลายมาโดยตลอด

 

“จริงๆ แล้วเราตั้งใจให้น้ำหอม Pride เป็นตัวแทนของทุกคนที่เคยคิดว่าตัวเองแตกต่าง ไม่เท่าเทียม แต่เราเชื่อว่าทุกคนเท่าเทียมกันมาตั้งแต่ต้น และเราเข้าใจความรู้สึกของกลุ่มคนที่ถูกมองว่าเป็น Minority ดี ทุกคนควรภูมิใจในตัวเองไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม”

 

การเปิดตัวน้ำหอม Pride ในครั้งนี้จึงเป็นเหมือนเฟสแรกของการประกาศจุดยืน ซึ่งจักรชลัชบอกว่า ในบทต่อไปน้ำหอม Pride จะถูกเล่าผ่าน Minority กลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนพิการ กลุ่มคนที่ถูกมองว่าไม่ได้อยู่ใน Beauty Standard เพราะ Journal อยากให้ทุกคนกลับมาภูมิใจในตัวเองอีกครั้ง ลืมภาพความเจ็บปวดและคำตัดสินของคนอื่นทิ้งไป แล้วออกเดินทางไปพบกับเรื่องราวการออกแบบกลิ่นที่ให้ความรู้สึกถึงความภาคภูมิใจในตัวคุณ 

 

 

นักปรุงน้ำหอมหยิบเอาความหอมละมุนของ ‘ดอกไอริส’ สัญลักษณ์ของการสรรเสริญและเชิดชูการต่อสู้ของ LGBTQIA+ มาไว้เป็นกลิ่น Top Note เพื่อสะท้อนบุคลิกที่น่าค้นหาและทรงคุณค่า ตามมาด้วยใช้ Middle Note ของกลิ่น ‘ลิ้นจี่’ ตัวแทนความหลากหลายและมีเอกลักษณ์ มอบกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกน่าค้นหาผสานกับกลิ่นที่หอมละมุนละไม สะท้อนบุคลิกที่สดใสและสนุกสนาน ปิดด้วย Base Note ของกลิ่น ‘ไม้กฤษณา’ กลิ่นหอมอบอุ่น สัญลักษณ์ของความมั่นคงและมีคุณค่า เพื่อย้ำเตือนให้ทุกคนยอมรับและมองเห็นคุณค่าในตัวเอง โดยสมัยก่อนไม้ชนิดนี้นิยมใช้เฉพาะคนชนชั้นสูง แต่ในปัจจุบันใครจะนำมาใช้ก็ได้ จึงเป็นตัวแทนของความเท่าเทียมได้อย่างชัดเจน 

 

Pride ถูกรังสรรค์ด้วยเทคนิคพิเศษในการปรุง เมื่อฉีดแล้ว Note ของกลิ่นดอกไอริสและลิ้นจี่จะแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิผิวของแต่ละคน ทำให้กลิ่นของ Pride สามารถสร้างกลิ่นเฉพาะตัวสำหรับแต่ละบุคคลได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ เหมือนกับผู้คนที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ Journal ตั้งใจจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้รับรู้ว่าน้ำหอม Pride ไม่จำกัดเพศและตัวตน เพราะกลิ่นไม่สามารถเจาะจงว่าเป็นเพศไหน แต่เป็นกลิ่นของความภาคภูมิใจที่ใครก็ใช้ได้ 

 

Journal ปลุกความภาคภูมิใจในตัวเองผ่านแคมเปญ ‘Pride’ ตลอดเดือนมิถุนายน 

 

ความมุ่งมั่นของ Journal ไม่หยุดอยู่แค่การรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ แต่ยังต่อยอดไปสู่การเป็นแบรนด์ที่เคียงข้างและสนับสนุนสังคม

 

 

เริ่มตั้งแต่การชวนบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับ LGBTQIA+ ได้แก่ ต้น ศิริศักดิ์ (นักรณรงค์) นักกิจกรรมเพื่อความเสมอภาคทางเพศและประเด็น Sex Worker, โด้ อธิก (นายแบบ) ผู้ชายที่มั่นใจในการแต่งตัวแบบไร้เพศ, พลอย พลอยพิชชา (นางแบบพลัสไซส์) และ โยชิ รินรดา (ดารา-นักแสดง) คนรุ่นใหม่ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับความหลากหลายทางเพศ มาร่วมถ่ายภาพแฟชั่นนำเสนอคอนเซปต์ความหลากหลายที่ไม่จำกัดรูปร่าง เพศ และสีผิว ผ่านเสื้อผ้าที่ไม่มีเพศ สื่อถึงแรงบันดาลใจในความภาคภูมิใจในตัวเอง 

 

 

หรือการแสดงจุดยืนด้วยการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินขบวนพาเหรด Bangkok Pride เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางเพศและผลักดันสมรสเท่าเทียม และร่วมเดินขบวนพาเหรด Chiang Mai Pride 2023 เพื่อเฉลิมฉลองและสนับสนุนองค์กรและชุมชน LGBTQIA+ รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนหลักในการประกวด CM Pride Ambassador 2023

 

 

อีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างอิมแพ็กได้อย่างมากคือ ‘Pride is Found Everywhere’ ตอกย้ำความเชื่อที่ว่า ความภาคภูมิใจเกิดขึ้นได้ทุกที่ผ่านการเดินทางของน้ำหอม Pride ที่ถูกนำไปจัดวางได้อย่างลงตัวตามสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีเรื่องราวและเรื่องเล่าที่ต่างกัน ขวดน้ำหอมที่มีฉากหลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนสะท้อนถึงความหลากหลายของเอกลักษณ์และตัวตน ไม่ว่าคุณจะมาจากที่ไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไร แค่กลับมาเห็นคุณค่าของตัวเอง หรือขวดน้ำหอมที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเศษเหล็กที่ดูเหมือนไร้ค่า สะท้อนให้เห็นว่าคุณค่าของเรา เราเป็นคนกำหนด ไม่ใช่มาตรฐานของใครที่วางไว้ เช่นเดียวกับเศษเหล็กที่สามารถสร้างประโยชน์ สร้างคุณค่าได้ และที่สำคัญเหล็กแข็งแกร่งเหมือนจิตใจที่เข้มแข็งของคนที่เห็นคุณค่าของตัวเอง

 

 

ไปจนถึงการทำ Video Campaign สัมภาษณ์ตัวแทนกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย เพื่อบอกเล่าการเดินทางเพื่อก้าวผ่านความเจ็บช้ำสู่ความภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะเป็น ชิน-สุชิน แก้วอุดร นักปรุงน้ำหอม และผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Journal กับเส้นทางการต่อสู้กับตัวตนจนหาพื้นที่ที่ตัวเองยืนได้อย่างภูมิใจ, เจนนี่ ปาหนัน นักแสดงและพิธีกรมากความสามารถ ตัวแทนของคนที่รักในตัวตนและภูมิใจในตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ไม่หวั่นต่อคำดูถูกเหยียดหยาม และ ต้น-ศิริศักดิ์ ไชยเทศ นักรณรงค์ผู้เรียกร้องสิทธิให้ LGBTQIA+ ที่ก้าวผ่านคำเย้ยหยัน ตีตรา ว่าเป็นกะเทยหัวโล้น กะเทยต่างด้าว สู่การขับเคลื่อนสิทธิเพื่อความหลากหลายทางเพศ 

 

 

ยังคงยืนหยัดสนับสนุนความหลากหลายในทุกมิติ

 

เพราะไม่ว่าจะวันนี้ เดือนไหน หรือปีต่อๆ ไป ‘คุณก็ยังเป็นคุณ’ ความภาคภูมิใจในตัวตนที่แท้จริงควรแสดงออกมาในทุกลมหายใจ หรือเมื่อไรก็ตามที่ความภาคภูมิใจในตัวเองเริ่มถดถอย การใช้กลิ่นหอมเพื่อดึงความทรงจำดีๆ กลับมาก็เป็นทางเลือกที่ดี เหมือนที่นักจิตวิทยาบอกว่า กลิ่นส่งผลต่อความทรงจำของมนุษย์มากที่สุด เพราะสมองกลีบหน้าต่อตรงเข้ากับการรับกลิ่น ทำให้ทุกครั้งที่ได้กลิ่นเรามักจะนึกถึงความทรงจำนั้นได้ดีกว่าการเห็นหรือได้ยินนั่นเอง 

 

ชวนสัมผัสกลิ่นความภาคภูมิใจของน้ำหอม Pride ได้ที่ช็อป Journal ทุกสาขา 

 

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.journal-boutique.com/

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising