อีกเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ การเลือกตั้งทั่วไปของประเทศฟิลิปปินส์ก็จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2022 โดยในวันนั้นจะมีการเลือกตั้งทั้งสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นรวมกันมากกว่า 18,000 ตำแหน่ง แต่สิ่งที่ทุกคนจับตามองคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ซึ่งในฟิลิปปินส์จะเป็นการแยกกันเลือก โดยประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีอาจจะมาจากพรรคการเมือง หรือเป็นผู้สมัครอิสระ ที่บางครั้งก็อาจจะจับมือกันหาเสียงสร้างทีมเดียวกัน หรือบางคราวฟิลิปปินส์ก็ได้ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีที่มาจากคนละขั้วการเมืองกัน ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยตัวเก็งผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 10 ราย และรองประธานาธิบดี 9 ราย จับคู่กันออกมาได้เป็น 4 ทีมที่น่าสนใจดังนี้
- BBMSara UniTeam 2022 ซึ่งเป็นการจับคู่ระหว่างวุฒิสมาชิก เฟอร์ดินานด์ ‘บองบอง’ มาร์กอส จูเนียร์ ลูกชายของ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำเผด็จการทรราชคอร์รัปชันระหว่างปี 1965-1986 ของประเทศฟิลิปปินส์ ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีภายใต้พรรค Federal Party of the Philippines (PFP) จับคู่กับ ซาราห์ ดูเตร์เต ลูกสาวของ โรดริโก ดูเตร์เต ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โดยปัจจุบันซาราห์ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรี (Mayor) เมืองดาเวา และเธอจะลงสมัครตำแหน่งรองประธานาธิบดีภายใต้พรรค Lakas ซึ่งเป็นพรรคการเมืองอุดมการณ์อนุรักษนิยมสายกลาง (ขวา-กลาง) ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มประชาธิปไตยคาทอลิกและประชาธิปไตยมุสลิม แต่ซาราห์เองก็ลงสมัครในนามพรรคการเมืองที่เป็นคนละพรรคคุณพ่อ ซึ่งสังกัดพรรค PDP-Laban ซึ่งมีอุดมการณ์ค่อนมาทางสังคมนิยมประชาธิปไตย และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยจากการสำรวจคะแนนนิยมล่าสุด (ณ วันที่ 30 เมษายน 2022) ทีม BBMSara มีคะแนนนำสูงถึง 52.9-64% (ผู้เขียนรวบรวมจากหลายโพล) ซึ่งข้อน่าสังเกตคือ โพลส่วนใหญ่จะเป็นการสำรวจคะแนนนิยมจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในระดับรายได้ระดับล่างจนมาถึงระดับกลาง-ล่าง ซึ่งกลุ่มนี้จะนิยมชมชอบในความเป็นเซเลบริตี้ของทั้ง 2 คน มากกว่าที่จะสนใจประวัติที่ด่างพร้อยของตระกูลมาร์กอส เพราะคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้มีอายุไม่สูงมากนัก ไม่ทันจำความได้ในวันที่อดีตประธานาธิบดีมาร์กอสร่วมกับลูกชาย บองบอง ย่ำยีฉ้อฉลประชาชนฟิลิปปินส์
- ทีมที่ 2 ที่หลายๆ ฝ่ายจับตาคือ Team Leni ซึ่งเกิดขึ้นจากการฟอร์มทีมของ เลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่ทำงานเคียงคู่กับประธานาธิบดีดูเตร์เต ซึ่งเธอดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2016 และเป็นผู้สมัครหญิงเพียงคนเดียวที่ลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเลนีซึ่งลงสมัครในนามผู้สมัครอิสระ จะจับคู่กับวุฒิสมาชิก ฟรานซิส เปกิลินัน จากพรรค Liberal ซี่งมีอุดมการณ์เสรีนิยม และทีมเลนีก็ถือเป็นทีมที่มีคะแนนนิยมมากเป็นอันดับที่ 2 ที่ระดับ 18.5-24.3% แต่ทั้งนี้ก็ต้องพึงระลึกไว้ว่า โพลสำรวจความนิยมจากกลุ่มที่ไม่ใช่เป้าหมายของทีมเลนี เพราะผู้ที่ชื่นชมในตัวของเธอคือกลุ่มรายได้ปานกลางจนถึงรายได้สูง ที่แน่นอนว่ามีความเคร่งครัดในศาสนาคาทอลิกและอิสลาม แต่ก็มีจิตใจที่เปิดกว้างมากกว่ากลุ่มที่เป็นผู้นับถือศาสนาแบบอนุรักษนิยม นั่นทำให้เธอได้รับคะแนนสนับสนุนจากสมาคมศาสนาที่มีสมาชิกเป็นจำนวนมากในประเทศฟิลิปปินส์ โดยสมาชิกของกลุ่มศาสนาเหล่านี้มักเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนขึ้นไป ซึ่งยังจดจำประสบการณ์การต่อต้านระบอบมาร์กอสได้เป็นอย่างดี
- ทีมที่ 3 ทีมของคนรุ่นใหม่ที่มีกิจกรรมในโลกโซเชียล นั่นคือทีมของ ฟรานซิสโก ‘อิสโก’ โดมาโกโซ จากพรรค Aksyon ผู้ว่ากรุงมะนิลาคนปัจจุบัน โดมาโกโซถือเป็นแกนนำกลุ่มหัวก้าวหน้าทางการเมืองในฟิลิปปินส์ ที่เน้นการปฏิรูปต่อต้านกลุ่มอำนาจเดิม (Establishment) โดยเขาจะจับคู่กับ นพ.วิลลี ออง ศัลยแพทย์โรคหัวใจ ที่มีชื่อเสียงในโลกโซเชียลจากการทำ Facebook และ YouTube ตอบปัญหาสุขภาพ คะแนนนิยมของทีมอนาคตก้าวใหม่นี้อยู่ที่ 5-11.75%
- ทีมสุดท้ายคือ ทีม PROMDI (Progressive Movement for the Devolution of Initiatives) ที่สนับสนุนสุดยอดนักชกขวัญใจมหาชน แชมป์โลก 8 สถาบัน ที่เคยได้แชมป์โลกมาแล้วใน 12 ครั้งจากการชก 5 รุ่น นั่นคือ เอ็มมานูเอล ‘แมนนี’ ปาเกียว ซีเนียร์ ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดย แมนนี ปาเกียว จะจับคู่กับ ลิโต เอเทียนซา ซึ่งเป็น ส.ส. จากจังหวัดบูเฮย์ ลงชิงตำแหน่ง โดยอุดมการณ์ทางการเมืองของทีมนี้คืออนุรักษนิยม ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างรุนแรงในเรื่องการต่อต้านและการลิดรอนสิทธิกลุ่มคนที่ยอมรับในความหลากหลายทางเพศวิถี (LGBTQI+) โดยคะแนนนิยมของทีมนี้อยู่ที่ระดับ 2-7% เท่านั้น
จากทั้ง 4 ทีมตัวเก็ง โอกาสที่จะพลิกล็อกจากผลสำรวจคะแนนนิยมอาจจะเกิดขึ้นระหว่างทีม BBMSara และทีม Leni เพราะสิ่งนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2016 ที่ทั้ง บองบอง มาร์กอส และเลนี โรเบรโด ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยผลสำรวจก่อนการเลือกตั้งคาดการณ์ว่า บองบอง มาร์กอส จะมีโอกาสสูงกว่าในการครองตำแหน่งรองประธานาธิบดี แต่อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า โพลเน้นการสำรวจจากกลุ่มผู้มีรายได้ระดับล่างจนถึงกลาง-ล่าง แต่ในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว กลุ่มผู้มีรายได้สูงและกลุ่มวัยกลางคน ซึ่งยังจดจำยุคสมัยของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสได้ ก็ออกมาเลือกตั้งเป็นจำนวนมากจนทำให้เลนีพลิกโผชนะการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ต้องจับตาดูว่า กลุ่มวัยกลางคนและผู้มีรายได้สูงจะออกมาใช้สิทธิกันมากน้อยเพียงใด
อีกประเด็นที่น่าสังเกตจากการเลือกตั้งของฟิลิปปินส์ก็คือ ทุกกลุ่มการเมืองไม่ได้แข่งขันกันในเรื่องของการทำนโยบายในการบริหารจัดการและพัฒนาประเทศ การเมืองฟิลิปปินส์เป็นประชาธิปไตยที่คนทั่วๆ ไปไม่ได้ตื่นรู้ ไม่ได้สนใจการแข่งขันในนโยบายของผู้ชิงตำแหน่งทางการเมือง หากแต่เน้นการเลือกตั้งที่มีสีสัน ไลฟ์สไตล์ของผู้ชิงตำแหน่งที่เสมือนซูเปอร์สตาร์หรือเซเลบริตี้ กลายเป็นความฝันความสุขของชาวฟิลิปปินส์ที่ยังยากจน ขาดโอกาส และเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ การเลือกตั้งดูคล้ายกับการเลือกดาราที่ตนชื่นชอบ ดังนั้นจึงไม่ได้เห็นทีมการเมืองใดนำเสนอคำประกาศนโยบาย (Manifesto) อย่างจริงจัง
เราจะเข้าใจนโยบายของผู้สมัครลงเลือกตั้งก็ได้จากเพียงคำให้สัมภาษณ์ หรือคำปราศรัยในรูปแบบทาวน์ฮอลล์ ที่เน้นการจัดแสง สี เสียง และการเกณฑ์กองเชียร์มาโห่ร้องแข่งกัน และผู้สมัครบางราย อาทิ บองบอง มาร์กอส เองก็เลี่ยงที่จะดีเบตในหลากหลายเวที รวมทั้งยังไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจนเพื่อที่จะนำเสนอต่อประชาชนอีกด้วย โดยผู้เขียนได้สรุปประเด็นนโยบายเท่าที่จะสามารถจับความได้ของทีม BBMSara และทีม Leni
จะเห็นได้ว่าประเด็นที่คนฟิลิปปินส์สนใจมากที่สุดคือ ประเด็นทางด้านสังคม ที่อาจจะขัดแย้งกับหลักการทางศาสนาคาทอลิกและอิสลาม นั่นคือ การทำแท้ง การหย่าร้าง การมีความแตกต่างหลากหลายทางเพศวิถี ซึ่งจุดยืนของทั้ง 2 ทีมจะค่อนข้างชัดเจน ในขณะที่พอกล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายสาธารณสุข ความชัดเจนก็จะค่อยๆ ลดลงไป และมีคำถามที่พวกเราผู้สังเกตการณ์มักจะตั้งข้อสังเกตคือ นโยบายเหล่านี้มีแต่รายจ่ายจำนวนมหาศาล ในขณะที่ไม่มีทีมใดเลยที่กล่าวถึงการจัดหารายรับ / รายได้ของรัฐ ที่จะบริหารโครงการเหล่านี้ นั่นหมายความว่า ประชานิยมอาจมาพร้อมกับหนี้สาธารณะก้อนใหญ่ของประเทศ
แต่สิ่งที่เห็นชัดที่สุดของทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และจะส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมอาเซียน นั่นคือ ประเด็นนโยบายการต่างประเทศ ที่ทีม BBMSara จะเน้นการประนีประนอม ไม่ขัดแย้งกับจีน และคงความสัมพันธ์แบบรักษาระยะห่างกับสหรัฐฯ ในขณะที่ทีม Leni ดูเหมือนจะเข้าหาสหรัฐฯ และทำให้กรณีพิพาทในทะเลจีนใต้กลายเป็นปัญหาจุดปะทุความขัดแย้งในภูมิภาค ที่มหาอำนาจพร้อมจะเข้าแทรกแซงได้อีกครั้ง
วันที่ 9 พฤษภาคมนี้ พวกเราคนไทยต้องจับตาดูว่า เพื่อนบ้านอาเซียนที่มีประชากรมากกว่า 100 ล้านคนแห่งนี้จะกำหนดอนาคตของพวกเขาอย่างไร
นโยบายด้านสังคม
BBMSara คะแนนนิยม 52.9-64%
การทำแท้ง: สนับสนุนการทำแท้งถูกกฎหมาย ในกรณีถูกข่มขืน ท้องโดยบุคคลในครอบครัว
การหย่าร้าง: สนับสนุนการออกกฎหมายอนุญาตให้หย่าร้าง แต่ต้องมีกระบวนการที่ไม่ง่ายจนเกินไป
การลงโทษประหารชีวิต: ต่อต้านการลงโทษประหารชีวิต
LGBTQ+: สนับสนุนกฎหมายคุ้มครองสิทธิ LGBT+ สนับสนุน Same Sex Civil Union
เลนี โรเบรโด คะแนนนิยม 18.5-24.3%
การทำแท้ง: ไม่สนับสนุนการทำแท้ง ยึดมั่นหลักคาทอลิก
การหย่าร้าง: ไม่สนับสนุนการหย่าร้าง ยึดมั่นหลักคาทอลิก
การลงโทษประหารชีวิต: ขอรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง อาจสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน
LGBTQ+: สนับสนุนคุ้มครองสิทธิ LGBT+ สนับสนุน Same Sex Civil Union แต่ไม่สนับสนุนการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน
นโยบายเศรษฐกิจ
BBMSara
- ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การท่องเที่ยว
- เน้นการสร้างงาน
- สนับสนุนส่งเสริม MSMEs ผ่านการลด / ยกเว้นภาษี
- สนับสนุนการวิจัย
- นำ Kadiwa Store (คล้ายๆ ร้านธงฟ้า) กลับมาเพื่อลดค่าครองชีพ
เลนี โรเบรโด
- ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับทะเล / มหาสมุทร ภาคการผลิต อุตสาหกรรมที่ดีกับสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมไฮเทค และเกษตรทันสมัย
- สนับสนุนงบประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนา MSMEs
นโยบายการศึกษา
BBMSara
- สร้าง National Education Portal เน้นระบบการศึกษาออนไลน์
เลนี โรเบรโด
- สนับสนุนการเปิดโรงเรียน และให้อุปกรณ์เรียนออนไลน์สำหรับเด็กในพื้นที่เสี่ยง
- สร้างระบบ Community Learning Hubs
- งบประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์ ให้เด็ก 22 ล้านคน (6 ดอลลาร์ต่อคน)
- เพิ่มงบการศึกษาเป็น 6% ของ GDP
- เรียกสถานการณ์ปัจจุบันว่า ‘Education Crisis’
นโยบายการต่างประเทศ
BBMSara
- นโยบายต่างประเทศอิสระ ‘Friends and Hopefully Allies’
- นโยบายไม่เผชิญหน้ากับจีน
เลนี โรเบรโด
- ยืนยันอำนาจอธิปไตยของประเทศในทะเลจีนใต้
- สนับสนุนการพัฒนาให้กองทัพทันสมัย
- รื้อฟื้นผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่ให้สิทธิฟิลิปปินส์ในบริเวณพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้
- สนับสนุนการเจรจาแบบพหุภาคีในกรณีพิพาททะเลจีนใต้ (เปิดทางให้สหรัฐฯ แทรกแซง)
นโยบายสาธารณสุข
BBMSara
- เพิ่มงบสาธารณสุข งบวิจัยทางการแพทย์
- เพิ่มศูนย์วิจัย โรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเฉพาะทาง
- เพิ่มสวัสดิการและเงินตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์
- เพิ่มวัคซีนและผลิตเอง
เลนี โรเบรโด
- ขยาย Universal Health Care ให้รวมโควิด
- ปฏิรูป Philippines Health Insurance Corporation
- เพิ่มสวัสดิการและเงินตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์
- เพิ่มวัคซีนและผลิตเอง
โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค
BBMSara
- สนับสนุน Build! Build! Build!
- วางตำแหน่ง Logistics Hub ในมหาสมุทรแปซิฟิก
- พลังงานทางเลือก สนับสนุนนิวเคลียร์
- แก้ปัญหาน้ำท่วม วางผังเมืองและระบบท่อระบายน้ำ
เลนี โรเบรโด
- สนับสนุน Build! Build! Build!
- ใช้ระบบ PPP แทนการพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ภาพ: Niyazz via ShutterStock