วันนี้ (12 พฤษภาคม) ชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามสถานการณ์และเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันและแก้ไขตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ กทม. ปี 2565 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนมาตรการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ยานพาหนะ การก่อสร้าง สถานประกอบการ และการเผาในที่โล่ง
รวมถึงการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการลดมลพิษทางอากาศ เช่น การตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐานกำหนด เพื่อช่วยกันลดการเกิดฝุ่นละออง PM2.5 และลดผลกระทบต่อสุขภาพ
สำหรับมาตรการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศทั่วไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เป็นมาตรการหนึ่งตามแผนปฏิบัติการโดยกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งต้องกำหนดค่ามาตรฐานเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมง และค่ามาตรฐานเฉลี่ยรายปีให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยปรับปรุงค่ามาตรฐานราย 24 ชั่วโมง จากเดิมไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. เป็นไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. ส่วนค่าเฉลี่ยในเวลา 1 ปี จากเดิมไม่เกิน 25 มคก./ลบ.ม. เป็นไม่เกิน 15 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้ กทม. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการกำหนดค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 ที่ปรับปรุงใหม่ โดยการปรับปรุงพัฒนาแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ กทม. จากคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ใน กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ครอบคลุม มีประสิทธิภาพ และยกระดับมาตรการตามเกณฑ์มาตรฐานใหม่
รวมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งรัดแผนระยะยาวในการป้องกันและลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด เช่น การนำน้ำมันเชื้อเพลิงกำมะถันไม่เกิน 10 ppm มาใช้ใน กทม. และปริมณฑล ก่อนกฎหมายบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2567 และการบังคับใช้มาตรฐานการระบายมลพิษจากรถยนต์ยูโร 6 ภายในปี 2565 เพื่อให้การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และรองรับมาตรฐานใหม่