วันนี้ (23 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาในวันนี้ โดยระบุว่าจากที่ได้เสนอตัวผู้สมัครประธานวุฒิสภา ซึ่งมีการเสนอชื่อจากทั้ง 2 ค่าย เป็นเสมือนมีเงาของพรรคการเมืองทาบทับอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง
“แต่ทั้ง 2 ฝั่งก็เป็นคนละอุดมการณ์ทางการเมือง บรรดา สว. จำนวนหนึ่งก็เกิดความไม่สบายใจว่า ไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้าเป็น 2 ขั้วเหมือนสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และมีความเห็นว่าอยากจะสนับสนุนให้ผมเองได้เสนอตัวเป็นประธานวุฒิสภาอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งผมได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ สว. ทั้ง 200 คนจะมีผู้ที่ถูกเสนอชื่อ 3 ท่าน ทั้ง 3 แนวทาง และตนเองก็เป็น สว. ที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่มีเงาของพรรคใดมาทับทาบอยู่ข้างหลัง” นพ.เปรมศักดิ์ เผย
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การเสนอตัวในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ดี และลบข้อครหาของ สว. ชุดนี้ ว่าเป็น สว. ตามใบสั่ง และเชื่อมั่นว่าแนวทางของตนเองและเพื่อนสมาชิกได้รับความสนใจก็จะเสนอตัวเป็นประธานวุฒิสภา ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ตนเองก็เคารพทุกท่าน แต่ขอให้ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่าจะนำพา สว. ไปสู่ทิศทางเช่นใด และขอให้สบายใจหรืออย่ากังวลใจในการลงมติ
“ขอให้คำนึงถึงว่าการลงมติครั้งนี้จะมีผลผูกพันไปอีก 5 ปีข้างหน้า ว่าเราจะลงจากตำแหน่งอย่างไร เป็นเรื่องที่ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะถูกมองว่าเป็นเหมือนไม้ประดับหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การบอกว่าไม้ประดับ ถือเป็นคำพูดที่ดูถูกประชาธิปไตย การจะบอกว่าตนเองมีจำนวนเสียง 140 เสียง แล้วมาดูถูกอีกฝั่งว่าเป็นพลังจิ๊บจ๊อยนั้น มดแดงยังเคยล้มช้างมาแล้ว ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะมาปรามาสกัน การลงสมัครหรือการเสนอชื่อมีความหมายต่อระบบประชาธิปไตย แพ้หรือชนะเป็นเรื่องที่ สว. จะตัดสินใจบนพื้นฐานของการกู้ภาพลักษณ์และเกียรติศักดิ์ของสถาบันแห่งนี้
“ที่บอกว่าผมเป็นไม้ประดับ ผมเองไม่ถือโทษโกรธ ก็ขอให้ว่ากันไป แต่ถือว่าวิสัยทัศน์ที่ได้แสดงวันนี้เป็นประโยชน์ต่อวุฒิสภา และสามารถจะนำไปปฏิบัติได้จริง และจะไม่เสนอเรื่องที่เป็นความฝัน เพราะมีประสบการณ์ทางการเมืองมาแล้ว 12 ปี เรื่องที่เสนอเป็นเรื่องจริงที่ทำได้ทันทีโดยไม่ต้องฝึกงาน”
นพ.เปรมศักดิ์ ระบุด้วยว่า แต่หากผลการลงมติออกมาแล้ว คะแนนเป็นกลุ่มก้อนก็แสดงว่าหวยล็อก ถ้าคะแนนเป็นไปตามมุ้งที่ออกข่าวมาก่อนหน้านี้ ก็น่าเศร้าใจ เพราะเป็นการทายผลล่วงหน้าได้มากกว่าผลฟุตบอล แค่ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น
ส่วน สว. ที่จะให้การสนับสนุนตนเองนั้นมีประมาณกว่า 10 คน และเพียงพอต่อการเสนอชื่อ และขอโอกาสจากเพื่อนสมาชิก ว่าหากมีผู้ถูกเสนอชื่อมากเท่าไรยิ่งเป็นประโยชน์ต่อวุฒิสภา และขอให้ประธานวุฒิสภาเปิดโอกาสให้ได้แสดงวิสัยทัศน์อย่างเต็มที่ ส่วนการตัดสินใจเป็นเรื่องของสมาชิก หากได้แค่คะแนนเดียว ตนเองก็พร้อมน้อมรับ
