พรีเมียร์ลีกเตรียมพิจารณาแผนในการกลับมาแข่งขันฤดูกาลปัจจุบันต่อในวันที่ 1 มิถุนายน และเปิดฤดูกาลใหม่ต่อทันทีในวันที่ 8 สิงหาคม เพื่อช่วยบรรดาสโมสรให้รอดพ้นจากหายนะทางการเงินครั้งสำคัญ
จากวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ทำให้วงการกีฬาต้องหยุดชะงักทั่วทั้งโลก รวมถึงการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ซึ่งถูกพักการแข่งขันชั่วคราวจนถึงวันที่ 30 เมษายน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะกลับมาแข่งขันได้หรือไม่ ซึ่งพรีเมียร์ลีกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสโมสรต่างๆ ได้พิจารณาแนวทางต่างๆ ทั้งในกรณีที่ดีที่สุดและเลวร้ายที่สุด
หนึ่งในแนวทางที่มีการเปิดเผยคือ การให้กลับมาแข่งขันต่ออีกครั้งในวันที่ 1 มิถุนายน และให้แข่งขันจบภายใน 6 สัปดาห์ หรือภายในวันที่ 11 กรกฎาคม โดยหากจำเป็นจะปิดสนามแข่ง ซึ่งแม้จะเป็นทางเลือกที่ดูท้าทาย เพราะจำนวนเกมที่เหลือโดยเฉลี่ยสโมสรละ 9 นัด แต่เป็นทางเลือกที่ทำให้พาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์อย่างสกายหรือบีทีค่อนข้างพอใจ เนื่องจากจะทำให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติในฤดูกาล 2020/21 ได้ต่อทันที โดยที่ทุกทีมจะมีเวลาอย่างน้อยราว 4 สัปดาห์ สำหรับการพักและการเตรียมเพื่อสู้ศึกฤดูกาลใหม่ด้วย
อย่างไรก็ดี เป้าหมายหลักที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันคือ การแข่งให้ครบทั้งฤดูกาล เพื่อทั้งรักษาคุณค่าและหลักการของการแข่งขันยังเป็นการทำตามสัญญากับผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดด้วย ประเด็นอ่อนไหวที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องของผู้เล่นจำนวนมากที่จะหมดสัญญากับสโมสรเดิมภายในวันที่ 30 มิถุนายน แต่ทางด้านฟีฟ่ายืนยันว่า จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ขณะที่ทางด้าน มาร์ติน เซมเมนส์ ประธานบริหารของสโมสรเซาแธมป์ตัน แนะนำว่า หากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายขึ้น แม้จะยังไม่กลับสู่ภาวะปกติทั้งหมด แต่ก็ควรให้พรีเมียร์ลีกกลับมาแข่งขันและมีการถ่ายทอดสดทุกวัน เพราะเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศอังกฤษในฐานะที่เป็นหนึ่งในสัญญาณว่าทุกอย่างกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
“เมื่อทุกคนปลอดภัย และเราไม่ต้องใช้กำลังคนของหน่วยงานสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว รัฐบาลก็ควรจะให้เรากลับมาแข่งได้ เพราะเราคือความบันเทิงและเป็นสัญญาณที่บอกว่า ประเทศกำลังกลับสู่ภาวะปกติ
“ถ้าผู้คนต้องอยู่บ้านกันอีกเดือนหนึ่ง แล้วมีพรีเมียร์ลีกให้ดูทุกวัน ก็น่าจะเป็นเรื่องดี ไม่ใช่เพราะเราสำคัญกว่าหน่วยงานสาธารณสุข แต่เพราะเรามอบความบันเทิงให้แก่ทุกคน และมันเป็นสัญญาณว่าเรากำลังต่อสู้กลับ”
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ thestandard.co/coronavirus-coverage
และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโรคโควิด-19 ได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
