ประยุทธ์ เข้าวัดเจดีย์ไหว้ไอ้ไข่ สั่งผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช เตรียมผลักดันจากเมืองรองเป็นเมืองหลัก

วันนี้ (20 กุมภาพันธ์) ที่วัดเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจติดตามวาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ำซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ำ โดยก่อนที่จะมาพบกับประชาชนนับพันคนที่รอต้อนรับ พล.อ. ประยุทธ์ได้ไปไหว้ ‘ไอ้ไข่’ สิ่งเคารพนับถือคนของคนภาคใต้ด้วย

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า คิดถึงอย่างแรง รักอย่างแรง มาวันนี้มาด้วยความคิดถึง วันหน้าจะฝากตัวอยู่ใต้ใครจะดูแลนายกฯ ได้บ้าง วันนี้มาในนามนายกฯ มาในนามรัฐบาล มาดูความก้าวหน้า ดูปัญหาอุปสรรคของประชาชนในพื้นที่ มาดูในระดับล่าง ระดับอำเภอ และหมู่บ้าน มาดูคลอง เปลี่ยนนายกฯ จะดูให้เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลก็ต้องแก้ไขให้ได้ เป็นโอกาสของคนนครศรีธรรมราช ติดที่งบประมาณแต่นายกฯ จะดูให้

ทั้งนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราชถือเป็นเมืองรอง ได้บอกผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้ว จะทำอย่างไรให้เป็นเมืองหลัก ให้คนมาเที่ยว มาพักผ่อนหลายๆ วัน มาเที่ยววัดเจดีย์ไหว้ไอ้ไข่ คนมากราบไหว้กันเยอะไม่ใช่ความเสียหาย เป็นความเชื่อถือศรัทธา ถ้าเราทำความดีไม่เสียหาย เพราะเราเป็นประเทศที่มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะนับถือศาสนาอะไรก็ได้ ประเทศไทยเป็นพหุสังคม

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้เราจะประกอบอาชีพแบบเดิมไม่ได้ เพราะหมดสมัยไปแล้ว ถ้าไม่พัฒนาขายไม่ออก สิ่งใดเป็นวัฒนธรรมประเพณีต้องรักษาไว้ วันนี้โลกแคบลง การค้าการส่งออกทั้งข้าว ปาล์มน้ำมันเป็นกลุ่ม สิ่งสำคัญที่สุดทำอย่างไรให้รายได้เพียงพอ รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่ สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องการให้ประเทศไทยมีรายได้สูงขึ้น มี GDP สูงขึ้นเพื่อเอารายได้มาดูแลประชาชน เป็นเรื่องของรัฐสวัสดิการ ต้องหาเงินเพิ่ม เอาเงินมาช่วยเหลือประชาชน แต่ก็ยังทำไม่ได้มาก ให้ได้ตามที่มีเงินอยู่ รัฐบาลจำเป็นต้องทำอย่างมั่นคง มีเสถียรภาพทางการเงิน ไม่เช่นนั้นต่างชาติไม่เชื่อมั่นในระบบเงินตราของไทย วันนี้เงินบาทยังแข็งอยู่ เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก รัฐบาลต้องหารายได้เข้าประเทศ ดูแลผู้มีรายได้น้อยอย่างเท่าเทียม ให้ทุกคนเข้าถึงโอกาส เท่าเทียมทางด้านกฎหมาย ไม่ให้ใครมากลั่นแกล้งได้ ถ้าใครถูกกลั่นแกล้งให้ร้องขึ้นมาตนจะดูแลให้

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง คนชรา ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ รัฐบาลก็ดูแลอยู่เพราะคนเหล่านี้ขาดโอกาส วันข้างหน้าจะดูแลอะไรได้อีกก็ต้องพิจารณากันต่อไป ตนขอพูดในเชิงบริหาร