×

ประยุทธ์ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง เสนอร่าง พ.ร.บ. งบฯ ปี 65 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท รับฟังทุกภาคส่วน เข้มงวดการทุจริต

โดย THE STANDARD TEAM
31.05.2021
  • LOADING...
ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วันนี้ (31 พฤษภาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอสาระสำคัญของ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า การจัดสรรงบประมาณประจำปี 2565 ไม่เกิน 3.1 ล้านล้านบาท ได้จัดสรรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงแผนแม่บทการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความมั่นคงของชาติ เพิ่มศักยภาพขององค์กรปกครองท้องถิ่น และเป็นไปตามสถานการณ์ของการระบาดของโควิด-19 

 

ทั้งนี้การจัดสรรงบจะเป็นแบบขาดดุล โดยกำหนดรายได้สุทธิจำนวน 2.4 ล้านล้านบาท ต้องกู้เงินจำนวน 7 แสนล้านบาทเพื่อชดเชย ขณะที่รายจ่ายของรัฐบาลที่สำคัญคือชำระหนี้ภาครัฐ, ชดเชยเงินคงคลัง, จัดสวัสดิการทางสังคมและบริการสาธารณะ, ดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบาง และรายจ่ายเพื่อขับเคลื่อนประเทศตามยุทธศาสตร์ จึงต้องจัดสรรรายจ่ายลงทุนไว้ 6.24 แสนล้านบาท

 

“รัฐบาลเตรียมเพิ่มแหล่งเงินทุนของประเทศ เช่น ให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการที่จะลงทุนในปี 2565 เร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย เพื่อแก้ไขกรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุนมีจำนวนน้อยกว่าเงินส่วนที่ขาดดุล ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจภายใต้การระบาดของโควิด-19 ได้ ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโควิด-19 เชื่อว่าจะรักษาระดับการจ้างงาน กระตุ้นการลงทุนและบริโภค” พล.อ. ประยุทธ์ชี้แจงในช่วงต้น

 

สำหรับการจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์นั้น ประกอบด้วย 

 

  1. ด้านความมั่นคง จำนวน 3.87 แสนล้านบาท
  2. ด้านสร้างความสามารถการแข่งขัน จำนวน 3.3 แสนล้านบาท
  3. พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ จำนวน 5.4 แสนล้านบาท
  4. สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม จำนวน 7.3 หมื่นล้านบาท
  5. สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวน 1.19 แสนล้านบาท
  6. ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ จำนวน 5.59 แสนล้านบาท

 

พล.อ. ประยุทธ์ยังได้ชี้แจงถึงการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายด้วยว่า จัดสรรเงินไว้จำนวน 4.12 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 

  1. งบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 8.95 หมื่นล้านบาท เพื่อสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันหรือแก้ไขสถานการณ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ความมั่นคงของรัฐ เยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติ รวมถึงชดเชยค่าสิ่งก่อสร้างช่วยเหลือผู้ประกอบการ
  2. บริหารหนี้ภาครัฐ จำนวน 2.97 แสนล้านบาท โดยชำระต้นเงินกู้ จำนวน 1แสนล้านบาท, ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม จำนวน 1.97 แสนล้านบาท 
  3. รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง จำนวน 596 ล้านบาท
  4. เพื่อชดใช้เงินทุนสำรองจ่าย จำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท

 

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ในปี 2565 คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 4-5 เพราะมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนของเอกชน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก ภายใต้เงื่อนไขการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึงและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของหลายประเทศ

 

“เสถียรภาพทางเศรษฐกิจปี 2565 มีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดี โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.7-1.7 ทั้งนี้รัฐบาลคาดว่าปี 2565 สามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีอากร การขายของ การบริการ พาณิชย์ รวม 2.5 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.26 และหักการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 1.1 แสนล้านบาท คงเหลือเป็นรายได้สุทธิของรัฐบาล จำนวน 2.4 แสนล้านบาท ดังนั้น การจัดสรรงบฯ ปี 2565 จำนวน 3.1 แสนล้านบาทเป็นแบบขาดดุล จึงต้องกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 7 แสนล้านบาท” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

 

ในส่วนของหนี้สาธารณะคงค้าง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 มีจำนวน 8.4 ล้านล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 54.3 ของ GDP ซึ่งยังอยู่ในกรอบการบริหารหนี้สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60 ส่วนสถานะเงินคงคลังของรัฐบาล ยอดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 มีจำนวน 3.7 แสนล้านบาท ขณะที่ฐานและนโยบายการเงินพบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2564 อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่ภาคธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจ SMEs และครัวเรือนมีความเปราะบาง เพราะไม่ฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกแรก รวมถึงได้รับผลกระทบจากระลอกใหม่ ทั้งนี้กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2564 ที่ร้อยละ 0.5

 

พล.อ. ประยุทธ์ระบุว่า ฐานะการเงินด้านต่างประเทศของไทย เมื่อ 30 เมษายน อยู่ในเกณฑ์ดี มีมูลค่าเงินสำรองที่ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.5 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ซึ่งเชื่อว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

 

“รัฐบาลจัดสรรงบประมาณแบบสองทาง คือรับฟังจากทุกภาคส่วน ทำให้มีรายละเอียดจำนวนมาก สำหรับงบประมาณนั้นยืนยันจะเข้มงวดกวดขันการทุจริต และทุกองค์กรสามารถตรวจสอบได้ หรือประชาชนที่พบเห็นการทำโครงการหรือผลงานไม่สำเร็จขอให้แจ้ง ผมหวังว่า ส.ส. จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะนี่คือประเทศไทย ประชาชนคนไทยที่ต้องดูแล ขอใช้เวลา 3 วันอย่างคุ้มค่า สร้างสรรค์ เพื่อวันนี้และอนาคตของลูกหลานในภายภาคหน้า” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

 

ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ใช้เวลาชี้แจงรายละเอียดต่อสภาฯ รวม 1 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นเป็นการอภิปรายของ ส.ส. ฝ่ายค้าน โดยมีเวลาในการอภิปรายรวม 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายนนี้ โดยใช้เวลารวม 47 ชั่วโมง 30 นาที

 

พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising