หลังจากสถานการณ์ความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด นายกรัฐมนตรีเผย รัฐบาลไทยมีแผนรับมือกับปัญหาดังกล่าว โดยการปรับนโยบายการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยให้มากที่สุด พร้อมยอมรับไทยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า แต่ไม่มากเพราะเศรษฐกิจของไทยยังคงเข้มแข็ง และมีความหลากหลายเสมอ
วันนี้ (21 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามจากสื่อมวลชน ถึงประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน เผยว่า ทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับผลกระทบของสงครามการค้าของทั้งสองประเทศมาโดยตลอด โดยรัฐบาลมีการปรับนโยบายในการส่งเสริมพัฒนาการส่งออก และนโยบายการค้าระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศไทย
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้หลายประเทศที่มีรายได้หลักจากการค้าระหว่างประเทศ รวมไปถึงไทยในฐานะคู่ค้ากับสหรัฐอเมริกาและจีน และในฐานะที่ไทยเป็นประเทศสมาชิกองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ อาเซียน (ASEAN) ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) และกลุ่มประเทศสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ซึ่งทุกประเทศต่างก็ได้รับผลกระทบทั้งหมด
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสริมว่า ขณะนี้ไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ไม่มาก เนื่องจากไทยยังมีเศรษฐกิจที่เข้มแข็งในรูปแบบอื่นอีกหลายมิติ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ให้พิจารณาตลาดคู่ค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศขนาดเล็ก นอกจากนี้ รัฐบาลจะหารือร่วมกับภาคเอกชน โดยประเมินและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจร่วมกัน อนึ่ง การประชุมอาเซียน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ รัฐบาลได้เตรียมหารือเรื่องมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับผลกระทบจากสงครามทางการค้าดังกล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: