×

พรุ่งนี้ประยุทธ์นำคณะรัฐมนตรีฉีด AstraZeneca หลังเลื่อนมาก่อนหน้านี้ เพราะมีรายงานผลข้างเคียง

โดย THE STANDARD TEAM
15.03.2021
  • LOADING...
พรุ่งนี้ประยุทธ์นำคณะรัฐมนตรีฉีด AstraZeneca หลังเลื่อนมาก่อนหน้านี้ เพราะมีรายงานผลข้างเคียง

วันนี้ (15 มีนาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่จากสถาบันบำราศนราดูรได้เข้ามาดูและจัดเตรียมสถานที่บริเวณตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (16 มีนาคม) เวลา 08.30 น. นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเป็นผู้ที่ลงเข็มฉีดวัคซีน  AstraZeneca ให้กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนคณะรัฐมนตรีคนอื่นอยู่ที่ความสมัครใจและความพร้อม ทั้งนี้การฉีดวัคซีนจะดำเนินการตามขั้นตอนและความปลอดภัยด้านสาธารณสุขทุกประการ 

 

โดยไม่อนุญาตช่างภาพสื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพภายในตึกสันติไมตรี เพื่อเป็นมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยสามารถติดตามไลฟ์ทางเพจไทยคู่ฟ้า พร้อมภาพนิ่งและภาพวิดีโอจากสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังมีการเลื่อนฉีดวัคซีนให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีรายงานผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการรับวัคซีน 

 

ทั้งนี้ หลังจากการรับวัคซีน พล.อ. ประยุทธ์ จะพูดถึงภาพรวมและการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การกลับคืนสู่ภาวะปกติของประเทศ และอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข จะพูดถึงแผนบริหารจัดการภาพรวมทั้งหมดของวัคซีน 

 

อย่างไรก็ตาม ได้มีหนังสือทางการส่งถึงผู้ติดตามและผู้ประสานงานประจำกระทรวงว่า ในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในวันพรุ่งนี้ (16 มีนาคม) ขอให้นำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขด้วย พร้อมขอให้ยืนยันความประสงค์การเข้ารับการฉีดวัคซีนด่วน

 

มีรายงานว่าคณะผู้เชี่ยวชาญจากกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสอบถามข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency) ยืนยันข้อมูลตรงกันว่าวัคซีนบริษัท AstraZeneca มีความปลอดภัย และไม่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดมากผิดปกติจากสถานการณ์ที่เคยเป็น แนะนำให้ฉีดวัคซีนต่อไป

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising