×

เลือกตั้ง 2566 : ประวิตรปราศรัยใหญ่ภาคใต้ที่นครศรีธรรมราช ขอคนนครฯ เทคะแนนให้พลังประชารัฐทั้ง 10 เขต เพื่อก้าวข้ามความยากจน

โดย THE STANDARD TEAM
30.04.2023
  • LOADING...
ประวิตร วงษ์สุวรรณ

วันนี้ (29 เมษายน) พรรคพลังประชารัฐเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ภาคใต้ที่สนามหน้าเมือง ถนนราชดำเนิน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 10 เขตในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 

 

พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ตนและพรรคพลังประชารัฐพร้อมจะรับใช้ชาวนครศรีธรรมราชทุกคนให้มีความเจริญรุ่งเรือง เราเลือกคนดีและคนเก่งมาเป็นผู้แทนของชาวนครฯ จึงขอให้เลือกผู้สมัครของพลังประชารัฐทั้ง 10 เขต และเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 บัตรสีเขียว วันนี้ตนอยากให้คนไทยรักกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งและความยากจนไปด้วยกัน จึงขอให้เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ 

 

พล.อ. ประวิตรกล่าวต่อไปว่า พรรคพลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน, ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส ค่าไฟฟ้าลงทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำทันทีที่พรรคพลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นรัฐบาล รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญคือลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ พลังประชารัฐจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น

 

นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐยังมีนโยบายเพิ่มเงินในบัญชีของประชาชน อย่างสวัสดิการผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8 โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไปจะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาท รวมไปถึงนโยบาย ‘แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ’ แจกเงินคนท้องเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือน จนกว่าจะคลอด และเงินช่วยดูแลลูกอีกเดือนละ 3,000 บาทจนถึง 6 ขวบ ซึ่งอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญก็คือ มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน ที่เราได้บริหารจัดการมากกว่า 3 ปี และเราจะทำต่อไป เช่นเดียวกับที่ดินทำกิน ถ้ามีเราก็มีที่ดินทำกิน ไม่มีจน เราจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีที่อยู่อาศัย มีที่ประกอบสัมมาวิชาชีพ เราจะสนับสนุนเงินให้เกษตรกรทั่วประเทศ จำนวน 30,000 บาท ทั้ง 8 ล้านครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความยากจนด้วย

 

ด้าน สันติ พร้อมพัฒน์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งเป็นตัวบ่อนทำลายและขวางการพัฒนาประเทศ นโยบายของ พล.อ. ประวิตรจึงเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศที่จะสร้างให้พ่อแม่พี่น้องอยู่ดีกินดี นอกจากนี้เรายังมีนโยบายที่จะก้าวข้ามความยากจน ที่จะพัฒนาให้ความช่วยเหลือดูแลลงมายังประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง 

 

“จากการที่กระทรวงการคลังได้ดำเนินการบัตรประชารัฐให้ประชาชนจำนวน 14.59 ล้านคน พล.อ. ประวิตร จึงเติมเงินเข้าไปในบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท เรายังคำนึงถึงการสร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่มีบัตรประชารัฐต้องมีที่ทำกิน มีฝีไม้ลายมือในการประกอบอาชีพ พรรคพลังประชารัฐจึงจะเติมเงินให้ไปเป็นทุนอีกรายละ 30,000 บาท เพื่อให้ทุกคนได้นำไปตั้งต้นประกอบอาชีพ ทั้งนี้เราจะส่งเสริมให้มีการฝึกอาชีพก่อน เพื่อให้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญที่จะไปประกอบอาชีพในอนาคตด้วย” สันติกล่าว

 

ขณะที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของพี่น้องชาวนครฯ ตนเชื่อว่าเวทีแห่งนี้ไม่เคยมีพรรคใดทำยิ่งใหญ่เหมือนครอบครัวพลังประชารัฐ ที่นี่คือเมืองหลวงของปักษ์ใต้ ดังนั้นพรรคของเราเล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ให้มีความเจริญเช่นเดียวกับภาคตะวันออก 

 

“การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคพลังประชารัฐได้รับเกียรติและโอกาสจากชาวนครศรีธรรมราชทุกคนส่งผู้สมัครของเราเข้าไปทำหน้าที่ในสภา เป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้อง ซึ่งทุกคนก็ทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ เต็มศักยภาพ โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดอยู่ที่ผลประโยชน์ของชาวนครฯ ครั้งนี้เรากลับมาขอโอกาสอีกครั้งหนึ่ง และเราพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า พปชร. เรามีความตั้งใจ ตั้งมั่นที่จะรับใช้คนไทยทั้งประเทศ” ร.อ. ธรรมนัสกล่าว

 

ปิดท้ายที่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง กล่าวปราศรัยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจของชาวภาคใต้ โดยเป็นตัวแปรให้ผ่านพ้นการต่อสู้และขัดแย้ง ก็คือ พปชร. ซึ่งเราเป็นพรรคที่จะสามารถรวมทุกฝ่าย พี่น้องประชาชนกำลังชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย หากตัดสินใจผิด เลือกพรรคผิด เลือกผู้แทนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ของรัฐบาล จะไม่มีใครดูแลประชาชน ดังนั้นขอให้เลือก ส.ส. ของพลังประชารัฐทั้ง 10 เขต และเลือก พล.อ. ประวิตร เป็นนายกฯ เพราะเป็นคนเดียวที่มีบารมีการเมืองมากที่สุด เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์การเมืองยาวนานที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising