×

ประวิตรยินดีให้ ป.ป.ช. เปิดรายงานไต่สวน แหวนมารดา-นาฬิกาเพื่อน บอกจะได้รู้ความจริง ยืมมา คืนแล้ว

โดย THE STANDARD TEAM
22.04.2023
  • LOADING...
ประวิตร วงษ์สุวรรณ

วันนี้ (22 เมษายน) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ระหว่างนั่งขบวนรถไฟเพื่อไปหาเสียงที่จังหวัดนครราชสีมาว่า เป็นการขึ้นรถไฟในรอบ 40-50 ปี หลังจากนั่งไปจังหวัดเชียงใหม่ สมัยเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยรวมมีความสนุกและไม่ร้อน 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่ได้เห็นวิถีชีวิตประชาชนที่ต้องนั่งรถไฟ พรรคพลังประชารัฐจะพัฒนาในด้านใดบ้าง พล.อ. ประวิตรตอบว่า จะพัฒนาภาคอีสานด้วยรถไฟ และการเปิดอุตสาหกรรม เปิดสถานศึกษาหรือโรงเรียน เพื่อให้เกิดการสร้างงานในพื้นที่ภาคอีสาน และเพื่อไม่ให้คนออกนอกพื้นที่

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คาดหวังในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างไร พล.อ. ประวิตรตอบว่า เรื่องนี้ให้ไปถาม วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค เพราะเป็นผู้ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ส่วนหัวหน้าพรรคนั้นไม่ต้องดูพื้นที่ ขณะที่ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐก็อยากได้ทั้ง 16 เขต ส่วนการจะปักธงได้หรือไม่นั้น พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า “ก็อยากสิครับ แหม ไม่น่าถามเลยนะ อยากได้แต่จะได้หรือไม่ก็ไม่รู้”

 

พล.อ. ประวิตรได้กล่าวถึงแผนพัฒนาภาคอีสานของพรรคพลังประชารัฐว่า เราจะดำเนินการทำนโยบาย ‘อีสานประชารัฐ’ ให้ได้ก่อน ยังไม่ต้องเอาเรื่องอื่นมาพูด หากสามารถทำนโยบายอีสานประชารัฐที่จะเชื่อมต่อระหว่างภาคตะวันออกไปถึงภาคตะวันตก หรือจังหวัดกาญจนบุรีได้ จะทำให้หลายจังหวัดในภาคอีสานมีความเจริญ และคนที่อยู่ในภาคอีสานจะมีงานทำ ถือเป็นการสร้างงานโดยเฉพาะ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะกล่าวกับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า อยากให้เลือกตนและพรรคพลังประชารัฐ เพื่อที่จะได้ที่ 1 ตามที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม ส่วนการจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้น พล.อ. ประวิตรระบุว่า การจะเป็นนายกฯ ต้องไปเลือกกันในรัฐสภา ไม่ใช่เลือกกันตรงนี้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็ว่ากันก่อน และตนเองก็ยังไม่ประกาศว่าจะจับมือกับใคร ส่วนนโยบายการก้าวข้ามความขัดแย้งนั้น อยากให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนความคิดทางการเมืองใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป เพราะตนบังคับใครไม่ได้ พร้อมระบุว่าบรรยากาศของประชาชนในขณะนี้ก็สามารถทำให้ประชาชนปรองดองได้ เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีตั้งหลายฝ่าย แต่ก็ยังสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียว และนำความเจริญมาสู่ประเทศได้ ซึ่งประเทศไทยเรายังไม่ได้แตกแยกขนาดนั้น 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดรายงานการไต่สวนกรณีปกปิดข้อเท็จจริงการแสดงทรัพย์สินนาฬิกาและแหวน พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ตนอยากให้เปิด ยินดี จะได้รู้ความจริงว่าเป็นอย่างไร ตนเองไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น และอยากให้เปิดตั้งนานแล้ว พร้อมยืนยันว่า “ไม่ได้เอาของใครมา ยืมมา ผมก็คืนเขาไปแล้ว”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising